วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2557

จองเอง เที่ยวเอง : กรุงเทพฯ-มาเก๊า-ฮ่องกง Part 1

13-16.10.2012


     จริงๆ แล้วทริปนี้มีคนวางแผนจัดการและเป็นผู้นำทริปคือ พี่ต่อและพี่นุ่ม 2 สามีภรรยานักเดินทาง
ผู้เป็นต้นแบบให้แฟนผมท่องเที่ยวแบบ "จองเอง เที่ยวเอง"
ส่วนตัวผมไม่รู้เรื่องอะไร จ่ายเงินและรอไปกับเค้าแค่นั้นเอง (เพิ่งเคยไปต่างประเทศครั้งแรกด้วย)

     การเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นที่เชียงใหม่ เพราะสมาชิกที่ร่วมเดินทางไปทั้งหมด (มี 3 คู่ 6 คน) อยู่เชียงใหม่ มีผมคนเดียวที่ช่วงนั้นถ่ายสารคดีอยู่กรุงเทพฯ เลยรอให้สมาชิกเดินทางจากเชียงใหม่มากรุงเทพฯ แล้วค่อยนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปมาเก๊าด้วยกัน
ตอนนั้น Air Asia ยังไม่มีเที่ยวบินจากเชียงใหม่ไปมาเก๊า

ค่าใช้จ่ายมีดังนี้ 

ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ-มาเก๊า : ของผม 3,056 บาท, ของแฟนผม 4,850 บาท (จองคนละรอบ)
ค่าตั๋วเครื่องบินกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ : ของผม 288 บาท, ของแฟนผม 214 บาท (จองคนละรอบ)
ค่าใช้จ่ายที่ฮ่องกงคนละ 7,000 บาท (รวมค่าเดินทางในมาเก๊า-ฮ่องกง อาหารและที่พัก)

     สมาชิกจากเชียงใหม่มาถึงกรุงเทพฯ ตอนค่ำของวันที่ 12 จึงเปิดโรงแรมนอนแถวๆ ดอนเมือง เพื่อรอขึ้นเครื่องเช้าวันที่ 13 ตามเวลาเครื่องขึ้น 6.35 น. เราต้องมา Check In ก่อน 1.30 ชั่วโมง เลยต้องมาถึงสนามบินดอนเมืองตอนตี 5 ...มืดและง่วง

13 ตุลาคม 2555

มานั่งๆ นอนๆ รอที่สนามบิน
เดินหามุมถ่ายรูปไปเรื่อย

เราขึ้นเครื่องที่ Gate 23

เครื่องบินมาแล้ว 

ออกเดินทางพร้อมแสงตะวัน
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที

มองเห็นแผ่นดินมาเก๊าแล้ว

ลงจอดที่ ท่าอากาศยานนานาชาติมาเก๊า (Macau International Airport)
     พอลงจากเครื่องบินเราก็เดินไปรอขึ้นรถ Shuttle Bus ฟรีของ The Venetian Macao Resort Hotel เพื่อเอาสัมภาระไปฝากไว้ที่โรงแรม ก่อนจะเข้าไปเที่ยวในมาเก๊าระหว่างรอขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปฮ่องกง รวมๆ แล้วเรามีเวลาเที่ยวในมาเก๊าประมาณ 4 ชั่วโมง

นั่งรถ Shuttle Bus ฟรีของโรงแรมเวเนเชี่ยน

โรงแรมเค้าใหญ่จริง

รถ Shuttle Bus จากสนามบินมาจอดที่ Main Lobby (East Lobby) เพดานสวยงาม

ข้างในก็สวยมาก

เอาสัมภาระไปฝากเรียบร้อยพร้อมไปเที่ยวในมาเก๊า 
     จากนั้นเราก็มารอขึ้นรถ Shuttle Bus ของทางโรงแรม ทางฝั่ง West Lobby เพื่อนั่งรถข้ามไปที่เกาะมาเก๊า โดยมีจุดหมายอยู่ที่ เซนาโด้สแควร์ (Senado Square) แหล่งชอปปิ้งของมาเก๊า
ระหว่างทางเต็มไปด้วยตึกสูง

ลงจากรถบัสเราก็เดินหาที่กินข้าวเช้า

กินข้าวเช้าเสร็จก็ออกเดินต่อ

บริเวณด้านหน้า ซากโบสถ์เซนต์ปอล เต็มไปด้วยร้านค้า

จัดร้านสวยดี

ร้านขายขนมจะมีของให้ชิมทุกร้าน...ชิมจนอิ่มกันเลย
     แล้วเราก็มาถึง ซากโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul's) สัญลักษณ์ที่สำคัญอย่างนึงของมาเก๊า เดิมเป็นโบสถ์คาทอลิกที่สำคัญในมาเก๊า ซึ่งถูกเพลิงไหม้และพายุไต้ฝุ่นถล่มในช่วงปี ค.ศ. 1835 จนเหลือเพียงซากประตูโบสถ์ (ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย)
ซากโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul's) 

ด้านหลังมีทางเดินขึ้นไปได้
     เสร็จจากเดินชม ซากโบสถ์เซนต์ปอล เราก็เดินลงมาซื้อของฝากด้านล่าง จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถประจำทางเพื่อกลับไปที่โรงแรมเวเนเชี่ยน เตรียมนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามไปฮ่องกง
ป้ายรถประจำทางให้ข้อมูลดี ออกแบบน่าสนใจ

นั่งรถประจำทางข้ามกลับมาที่โรงแรมเวเนเชี่ยน

เดินเที่ยวในโรงแรมรอเวลาขึ้นเรือ
      พอได้เวลาเราก็ไปรับสัมภาระคืน นั่งรถ Shuttle Bus ไปที่ท่าเรือ Cotai Water Jet (อยู่ใกล้ๆ สนามบิน) ใช้เวลาเดินทางไปฮ่องกง ประมาณ 1 ชั่วโมง ไปขึ้นฝั่งที่เกาะฮ่องกง จากนั้นก็นั่งรถไฟใต้ดิน (ลอดใต้ทะเล) ข้ามไปฝั่งเกาลูน เพราะเราจองที่พักไว้แถวๆ มงก๊ก

     เจ้าของที่พักเป็นคนไทย เปิดให้บริการมานานแล้ว มีห้องพักเล็กๆ ประมาณ 10 ห้อง สะอาดดีแต่เล็กจริงๆ (ค่าที่คงแพงมากๆ) มีห้อง 1 คน ห้อง 2 คน ห้อง 3 คน ห้อง 4 คน ห้อง 6 คน ที่ผมกับแฟนพักเป็นห้อง 2 คน ค่าห้องคืนละประมาณ สองพันกว่าบาท (จำราคาไม่ได้) ต่อคนก็คืนละพันกว่าบาท เราพักที่นี่ 3 คืน
     เป็นที่พักที่สะดวกต่อการเดินทางใกล้รถไฟใต้ดินมงก๊ก เดินแป๊ปเดียว... เอาสัมภาระไว้ในห้องพักเรียบร้อย ผมก็เดินออกมาถ่ายรูปแถวๆ ที่พัก
เต็มไปด้วยร้านค้าและผู้คน

สีสันเขียวตัดแดงมีให้เห็นทั่วไป สวยดีมีเอกลักษณ์

แถวนี้น่าจะเป็นท่ารถประจำทาง

มีร้านอาหารของกินเล่นอยู่ทุกๆ หัวมุมถนน

ดูๆ ไปคล้ายเยาวราชบ้านเรา

อันนี้แสงไฟคล้ายๆ แถวรัชดา^^
     เดินถ่ายรูปจนเหนื่อยเกือบหาทางกลับที่พักไม่ได้ ดีว่าไม่ได้เดินไปไกล แล้วก็มีป้ายภาษาอังกฤษให้อ่านอยู่บ้าง กลับมาถึงที่พักเกือบ 5 ทุ่ม รีบอาบน้ำนอน เตรียมลุยพรุ่งนี้แต่เช้า

...อ่านต่อ Part2 >>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น