วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2557

จองเอง เที่ยวเอง : กรุงเทพฯ-มาเก๊า-ฮ่องกง Part 2

13-16.10.2012

14 ตุลาคม 2555

     วันนี้ตื่นแต่เช้าออกมากินอาหารแถวๆ ที่พัก (มงก๊ก) แล้วก็นั่งรถไฟใต้ดินไปที่จุดหมายแรกของเราในวันนี้ "สำนักชีฉีหลินและสวนหนานเหลียน" ที่สถานี Diamond Hill

รถประจำทางสวยดี แต่เราไม่ได้นั่ง

กลุ่มอาคารหลังคาสีเทาทางซ้ายมือคือ "สำนักชีฉีหลิน" ส่วนสะพานสีส้มทางขวาคือ "สวนหนานเหลียน"
     จากทางที่เราเดินเท้ามา ทำให้เรามาถึงสำนักชีฉีหลินก่อน
ป้ายด้านหน้าทางเข้า

สถาปัตยกรรมไม้อันวิจิตร

สระบัวสวยงาม มีฉากหลังเป็นตึกสูง 


     สำนักชีฉีหลิน (Chi Lin Nunnery) เป็นกลุ่มอารามขนาดใหญ่ที่มีสถาปัตยกรรมไม้ที่งดงาม โดยเริ่มก่อสร้างขึ้นในปี 1934 ก่อนจะได้รับการบูรณะใหม่ในรูปแบบของราชวงศ์ถัง (ค.ศ 618–907) ในปี 1990 ภายในยังเก็บพระบรมสารีริกธาตุและมีสระบัวที่ให้ความสงบแก่ดวงวิญญาณ 
     (ตอนที่ไปเที่ยวผมไม่ได้รู้ข้อมูลอะไรเลย เพิ่งมาหาข้อมูลตอนเขียนบทความนี่แหละครับ ...น่าเสียดาย)
     จากนั้นเราก็เดินข้ามไปทาง สวนหนานเหลียน 
การจัดวางหินและต้นไม้สวยดี

ถังขยะออกแบบได้กลมกลืนกับบริบท
     สวนหนานเหลียน (Nan Lian Garden) เป็นสวนสาธารณะที่สร้างขึ้นในรูปแบบสมัยราชวงศ์ถัง มีพื้นที่มากกว่า 3.5 เฮกเตอร์ การวางตำแหน่งของเนินเขา หิน น้ำ พืชและโครงสร้างต่างๆ ที่ทำจากไม้เป็นไปตามกฎและวิธีการเฉพาะมากมาย ที่นี่เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมไม้ของจีน หิน และต้นไม้ในกระถาง 
     เป็นสวนที่สวยมากๆ เดินไปตรงไหนก็รู้สึกอยากเข้าไปนั่งเล่น ออกแบบได้ดีทั่วทั้งพื้นที่จริงๆ

เห็นแล้วอยากเข้าไปเกลือกกลิ้ง

ข้างใต้ศาลาเป็นบ่อปลาคาร์ฟ
น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา

ศาลาทองคำกลางน้ำ Landmark ของสวนหนานเหลียน
     ศาลาทองคำกลางน้ำ (Pavilion of Absolute Perfection Pond) เป็นศาลาไม้ 2 ชั้นทรง 8 เหลี่ยม สวยงามอย่างยิ่ง ชอบสะพานสีส้มตัดกับสีเขียวของต้นไม้ดี เห็นแต่ไกลเลยทีเดียว อยากเข้าไปดูใกล้ๆ แต่เค้าปิดไม่ให้เข้า
ด้านหลังม่านน้ำตกเป็นโรงเจ...นั่งกินอาหารหลังม่านน้ำตก^^
     เมื่อเดินดูกันพอใจแล้ว เราก็ออกเดินทางไปยังเป้าหมายต่อไป (เวลาน้อยต้องไปอีกหลายที่) โดยกลับไปต่อรถไฟใต้ดินที่สถานี Diamond Hill เพื่อไปยังสถานี Wong Tai Sin ถัดกันไปแค่สถานีเดียว
สถานีรถไฟใต้ดินที่นี่ก็มีกระจกกั้นระหว่างผู้โดยสารกับรถไฟ
     ขึ้นจากสถานี Wong Tai Sin เราก็เดินมาที่ วัดหวังต้าเซียน (Wong Tai Sin Temple) วัดที่ได้รับความนิยมของชาวฮ่องกง    
เห็นคนมาลูบเท้าและจมูกสิงห์ทั้ง 2 ตัว

เทพเจ้าหวังต้าเซียน เป็นเทพเจ้าแห่งสุขภาพดี

ไม่รู้เทพอะไร แต่เท่ดี

12 นักษัตร

ผู้คนมากราบไหว้ขอพรและเสี่ยงเซียมซีกันคับคั่ง

วิหารเทพเจ้าหวังต้าเซียน (ด้านหลังนะครับ ผมมัวแต่ถ่ายรูปไฟ)
ขณะเดินออกจากวัด รอบๆ มีแต่ตึกสูง
     เราเดินกลับมาที่รถไฟใต้ดินสถานี Wong Tai Sin นั่งไปสถานี Prince Edward เพื่อเปลี่ยนสายรถไฟไปสถานี Central (ข้ามจากฝั่งเกาลูนมาเกาะฮ่องกง)
สถานี Prince Edward

มาถึงสถานี Central (บนเกาะฮ่องกง) ทางเดินกว้างน่าเตะบอล
จากนั้นก็เดินข้ามไปที่ท่ารถประจำทาง

เป็นรถประจำทาง 2 ชั้น
     เป้าหมายที่เราจะไปก็คือ Stanley Market นั่งรถข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของเกาะกันเลยทีเดียว (จากทิศเหนือไปทิศใต้) ถือว่าได้นั่งรถเที่ยวดูเกาะฮ่องกง
นั่งรถดูวิวเมือง

มีรถรางด้วย

เริ่มขึ้นเขาแล้ว

ฮวงซุ้ยบนเขา น่าจะทำเลทอง มาอยู่กันเยอะเชียว

เมืองแห่งตึกสูง

ผ่าน Woodland Heights อพาร์ตเมนท์

ผ่าน Repulse Bay มั้ง...เดี๋ยวขากลับจะแวะไป

มาถึง Stanley Plaza แต่เราจะไป Stanley Market เลยนั่งรถต่อไปอีกนิด
มาถึงแล้ว

Stanley Market เหมือนสวนลุมไนท์ฯ ผสมจตุจักร แต่เล็กๆ 

เรามุ่งหน้ามากินข้าวก่อนเพื่อเติมพลัง...ร้านนี้อาหารอร่อยราคาไม่แพง
"ที่ท่านผู้ชมเห็นอยู่ทางด้านหลังของดิชั้นคือ Stanley Market นะคะ"

บริเวณวงเวียนของ Stanley Market

ศาลาด้านซ้ายของภาพคือ Blake Pier at Stanley เป็นท่าเรือสาธารณะ
"ดิชั้นจะพาท่านผู้ชมไปชมทางฝั่ง Stanley Waterfront Market บ้างนะคะ"

เดินเลาะริมทะเลไปได้เรื่อยๆ ทางปลายด้านนี้มีสนามฟุตบอลด้วย (ตรงเสาไฟสูงๆ นั่นแหละ)

มีร้านกาแฟให้นั่งเล่นชมวิวทะเล
     เสร็จจาก Stanley Market เราก็เดินไปขึ้นรถประจำทางเพื่อไปที่ Repulse Bay ต่อ (นั่นรถย้อนไปทางที่เราผ่านมาเมื่อกี้)
คันนี้ไม่ได้นั่ง แต่อยากนั่งชั้นบน น่าจะบรรยากาศดี
มาถึงแล้ว Repulse Bay

ซุ้มประตูทางเข้าไปสักการะเจ้าแม่กวนอิม และเจ้าแม่ทับทิม

มาสักการะเจ้าแม่กวนอิม (ทางซ้าย) และเจ้าแม่ทับทิม (ทางขวา)

สะพานอายุยืน ^^

เชื่อกันว่าข้ามสะพานนี้แล้วจะอายุยืนขึ้น 3 ปี (มาข้ามทุกวันนี่ไม่ตายกันพอดี)

ประติมากรรมรอบๆ 

ตึก The Repulse Bay พี่เค้าบอกว่าเจาะรูตรงกลางเพราะเรื่องฮวงจุ้ย ให้มังกรผ่านลงมาเล่นน้ำทะเลได้ 
     เสร็จจากจุดนี้เราก็นั่งรถประจำทางกลับไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน Central ไปเดินเล่นเพื่อรอดู A Symphony of Lights ตอนกลางคืน
ตึก IFC (International Finance Centre) สูง 412 เมตร อยู่บนเกาะฮ่องกง ...เห็นชัดใน A Symphony of Lights 

ตึกดังๆ ในฮ่องกง
     อาคารซ้ายมือที่เหมือนมีดดาบคือ Bank of China Tower ออกแบบโดย I. M. Pei สถาปนิกชาวจีน สูง 367.4 เมตร สร้างเสร็จปี 1990
http://en.wikipedia.org/wiki/Bank_of_China_Tower_(Hong_Kong)
     อาคารถัดมาอีก 2 หลัง (ที่มีปืนใหญ่อยู่ด้านบน) คือ HSBC Building ออกแบบโดย Norman Foster สถาปนิกชาวอังกฤษ สูง 178.8 เมตร สร้างเสร็จปี 1985
http://en.wikipedia.org/wiki/HSBC_Building_(Hong_Kong)
     เป็นผลงานของสถาปนิกที่มีชื่อเสียงทั้ง 2 ตึก มีเรื่องน่าสนใจคือการใช้หลักฮวงจุ้ยมาสู้กัน โดยตึก HSBC ทำปืนใหญ่หันไปทาง  Bank of China Tower ที่มีลักษณะเป็นคมมีด เพื่อแก้เกมกัน
     ข้อมูลอันนี้ทำไว้ดีครับ http://pantip.com/topic/30649501     
     ตึกดังๆ พวกนี้ตอนผมเรียนสถาปัตย์เคยเห็นแต่ในหนังสือ เพิ่งได้มาเห็นของจริงนี่แหละ อยากมีเวลาสักวันเที่ยวดูตึกสูงพวกนี้อย่างเดียว
หลังนี้น่าจะเป็นอาคารสมัยใหม่สวยดี

เดินเล่นถ่ายรูปรอเวลา
     พอได้เวลาประมาณหกโมงเย็น เราก็นั่งรถไฟใต้ดินข้ามกลับไปฝั่งเกาลูน บริเวณสถานี Tsim Sha Tsui แล้วก็เดินมาที่ Avenue Of Stars ซึ่งจะมีรอยประทับมือและรูปปั้นของดาราฮ่องกงให้เดินชม ระหว่างที่รอดู A Symphony of Lights
รูปปั้นสัญลักษณ์ของทีนี่

ดูแสงสีของตึกสวยๆ ที่เราเพิ่งชมมาตอนเย็นทั้งตึก IFC และ Bank of China

การแสดง A Symphony of Lights 


     การแสดง A Symphony of Lights จะเริ่มประมาณ 2 ทุ่มของทุกวัน ใช้ระยะเวลาแสดง 14 นาที แต่วันที่ผมไป ทุ่มกว่าๆ ก็เริ่มแล้ว มาก่อนก็ดีนะครับ
     หลังจากชม A Symphony of Lights อันงดงามแล้ว เราก็เดินเล่นแถว Avenue Of Stars สักพักก่อนจะนั่งรถไฟใต้ดินกลับที่พักของเรา (มงก๊ก) ด้วยความเหนื่อยอ่อน ...กลับไปหลับเอาแรงไว้ลุยพรุ่งนี้อีกวัน

...อ่านต่อ Part3 >>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น