วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559

จองเอง เที่ยวเอง : เชียงใหม่-กรุงเทพฯ-ฮานอย Part 3

20-24.05.2016


จันทร์ 23 พฤษภาคม 2559

วันนี้เราไม่ต้องรีบเร่ง เพราะกำหนดการทุกอย่างอยู่ที่เราและสองเท้าจะพาไป... ทานอาหารเช้าของทางโรงแรมแล้วเราก็เริ่มออกเดินเที่ยวฝั่งตะวันตกของฮานอย
เดินมาจากโรงแรมไม่ไกล ก็เจอสวนสาธารณะ ...บริเวณนี้ตอนเย็นจะมีคนมาออกกำลังกาย
ใน ฮานอย มีพื้นที่สีเขียวเยอะ ดูร่มรื่น


พื้นที่บริเวณฟุตบาทใช้นั่งพักผ่อน ตอนเย็นจะปรับเป็นร้านอาหาร
จุดแรกที่เราเดินมาก็คือ The North Gate เป็นประตูทางเข้าป้อมปราการ Thang Long สร้างในปี คศ. 1805 เป็นประตูที่ยังเหลือรอดมาจากการโจมตีของฝรั่งเศส
มุมบนซ้ายมือ ยังมีร่องรอยการถูกยิงจากลูกปืนใหญ่

ใหญ่โตโอฬาร

ข้อมูลเกี่ยวกับตัวประตูป้อมปราการ

ที่นี่เป็นมรดกโลกด้วย
เยื้องไปอีกนิดทางฝั่งตรงข้ามของถนน จะเจอ Cua Bac Catholic Church




ดูแล้วน่าจะเขียนแปลนยาก
เข้าไปเดินชมได้รอบๆ อาคาร ไม่รู้ว่ายังมีการใช้งานอยู่รึเปล่า แต่สภาพยังดูดีอยู่
เสร็จจากที่นี่เราก็เดินต่อไปยัง ทะเลสาบตะวันตก
ผ่านโรงเรียน ...พ่อแม่จะมารับเด็กไปกินข้าว ตอนเที่ยง แล้วจะมาส่งบ่าย เค้าไม่มีข้าวที่รร.ให้

แวะเข้าชมวัด Quan Thanh เสียค่าเข้าคนละ 10,000 VND 
ประตูทางเข้า
พื้นที่ด้านในร่มรื่น น่านั่งพักผ่อนมากๆ






เดินออกมาจากวัด Quan Thanh ก็จะเจอทะเลสาบ Truc Bach
บรรยากาศดีมาก


อีกด้านของถนนจะเป็นทะเลสาบตะวันตก

กว้างไกลสุดสายตา
ชื่นชมความงามของผิวน้ำกันพอสมควรก็ถึงเวลาไปกินข้าวกลางวัน หากินแถวๆ นั้นแหละครับ เพราะเดี๋ยวเราก็จะเดินไปบริเวณ สุสานโฮจิมินห์

แน่นอนครับว่าผมไม่รู้ว่าเค้าหยุดวันจันทร์ 555+
ที่สำคัญในวันที่ผมไป ประธานธิบดีบารัก โอบามา มาเยือนฮานอยพอดี ...เราจึงได้แค่เดินดูอยู่ห่างๆ
พื้นที่กว้างและวางผังสวยงาม
Presidential Palace

เดินดูรอบๆ พื้นที่

กว้างจริงๆ ...สุสานโฮจิมินห์ อยู่ข้างในนู้นนน

นี่แหละครับ สุสานโฮจิมินห์
 ส่วนอีกฝั่งของถนนเป็นอาคารที่ดูแปลกตาหลังนี้...ออกแบบดีเลย
National Assembly Building
ถึงจะเข้าเยี่ยมชมไม่ได้ อย่างไรเราก็ไม่ย่อท้อ เดินกันต่อไป ยังมีอีกหลายที่ให้เราเดินไปหา


เราจะเดินมาที่นี่แหละครับ Flag Tower
Flag Tower
อาคารทางขวามือสีขาวๆ คือ Army Museum

มีเครื่องบินด้วย
ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นอนุสาวรีย์เลนิน
Lenin Statue
พักให้พอหายเหนื่อยแล้วก็เดินเท้ากันต่อไป
อาคารเก่าแต่งหน้าทาปากให้เข้ากับการทำธุรกิจสมัยใหม่

หลังคาสวยดี
ในที่สุดเราก็เดินมาถึง Temple of Literature หรือ Temple of Confucius เป็น National University แห่งแรกของเวียดนาม อุทิศให้กับขงจื้อ สร้างในปี คศ. 1070
เราเดินมาถึงด้านหลัง ต้องเดินอ้อมไปเข้าด้านหน้า
ค่าตั๋วคนละ 30,000 VND ซื้อตั๋วเสร็จก็เดินเข้าไปทางซุ้มประตูสีขาวที่เห็น
ผ่านซุ้มประตูแรก
เจอกลุ่มเด็กอัจฉริยะ รับปริญญาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ (ล้อเล่นนะครับ)
ซุ้มประตูที่ 2 ...วางผังไว้สวยงาม
ผ่านซุ้มประตูมาเจอสระน้ำ
ผ่านเข้ามาอีกชั้นเจออาคารใหญ่
มีนักศึกษามาถ่ายรูปรับปริญญา


จุดนี้เป็นอาคารที่อยู่ลึกที่สุด
พื้นที่กว้าง วางผังดี อาคารสวย มีของที่จัดแสดงให้เห็นถึงเรื่องราวในอดีต...คุ้มค่ากับการเที่ยวชมมากๆ ครับ จริงๆ ก็อยากอยู่ดูรายละเอียดต่างๆ นานกว่านี้ แต่ยังมีคิวไปอีกที่นึง เลยต้องออกมาก่อน

จากข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวฮานอยฝั่งตะวันตกที่หามา ที่นี่เป็นที่สุดท้ายแล้วครับ... หลังจากนี้จะเป็นที่ที่ผมอยากไปเอง ...ระหว่างทางที่เดินไปก็เจอตลาด มีอาหารขายตามข้างทาง

เห็นคนนั่งกินเยอะเลยอยากรู้ว่าอะไร
ดูแล้วเป็นหอย มีให้เลือกหลายชนิด เอามาต้มแล้วก็มีน้ำราด และน้ำจิ้ม
ลองสั่งมากินบ้าง ใช้วิธีชี้จากโต๊ะข้างๆ ราคา 50,000 VND
แฟนผมชอบกินหอย เห็นแบบนี้เลยไม่พลาด รสชาติก็อร่อย...เข้าสู่ช่วงกินแล้วก็ไปที่เมนูต่อไปเลย...เดินมาอีกไม่ไกลก็เจอร้านนี้

ป้าเค้าทอดออกมาได้ดูน่ากินมาก

จัดเมนูนี้มาเพราะเห็นว่าแปลกดี
สั่งของทอดมากิน 2 อย่าง ราคา 30,000 กับ 5,000 VND เสร็จแล้วก็เดินไปซื้อไอติมจากมินิมาร์ทแถวๆ นั้นมากิน เป็นไอติมจากเกาหลี
อิ่มอร่อยกันแล้วก็มุ่งหน้าสู่เป้าหมายของผม นั่นคือ "สถานีรถไฟฮานอย" นั่นเอง
บ้านผมที่ จ.ลำปาง อยู่ใกล้สถานีรถไฟ (อำเภอเมือง) กับตลาด ผมเลยชอบบรรยากาศของทั้ง 2 สถานที่นี้ โตขึ้นก็พอเข้าใจว่าทั้ง สถานีรถไฟ และตลาด เป็นเหตุผลสำคัญในการเกิดขึ้นของชุมชนบริเวณนั้น
สถานีรถไฟ เป็นหัวใจของการคมนาคมในอดีต ทำให้เกิดชุมชนขึ้น เมื่อมีผู้คนมากขึ้นก็ต้องการอาหาร จึงเกิดตลาด เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ และชุมชนก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก
ผมคิดว่าการมาเที่ยวชมสถานีรถไฟ จะทำให้เข้าใจการเติบโตของเมืองในอดีตได้ในระดับนึง
เราเดินมาถึงด้านหลัง (อีกแล้ว) ของสถานีรถไฟฮานอย

รอบๆ สถานีรถไฟเต็มไปด้วยอาคาร

ดูแล้วน่าจะมีการปรับปรุง facade (อ่านว่า "ฟาซาด" หมายถึงเปลือกหุ้มอาคาร) ให้ดูทันสมัย

ถนนด้านหน้าสถานีรถไฟฮานอย
มาถึงจุดๆ นี้ ถ้าถามว่าเหนื่อยไหม ขอตอบเลยว่ามากกกกกกกกกกก
วันนี้เดินเกิน 10 กม. แน่นอน ผมชอบเที่ยวแบบเดินเท้า เพราะมันจดจำรายละเอียดด้วยร่างกาย เวลานึกย้อนไปภาพความทรงจำมันค่อนข้างชัดเจนในรายละเอียด
และต้องชื่นชมแฟนผมมากๆ ที่ไปด้วยกันทุกครั้ง ก็เดินลุยกับผมไปได้ทุกที่ ถึงไหนถึงกัน ขาลุยจริงๆ
ถ้านึกระยะทางที่ผมเดินในวันนี้ไม่ออก ลองดูใน Google Maps ได้ เดินกันมาครึ่งฮานอยแล้วครับ

ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟฮานอย มีร้านกาแฟเจ้าประจำของเราที่นี่ Highlands Coffee เราเลยแวะเข้าไปนั่งพัก หาอะไรเย็นๆ ดื่ม และเข้าห้องน้ำ ที่นี่อาหารและเครื่องดี่มรสชาติดี ราคาปกติทั่วๆ ไป ที่สำคัญ wifi ฟรีต่อได้ทุกสาขาเพียงแค่เดินไปใกล้ๆ

คำถามที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือ แล้วเราจะกลับที่พักด้วยวิธีการไหน ถ้าเราเดินกลับเป็นเส้นตรงก็จะใกล้กว่าตอนที่เราเดินมาพอสมควร ...แต่เสียงกรีดร้องจากร่างกายบอกว่า "นั่งรถเถอะ ให้ตรูได้พักบ้าง" 
ครับใจจริงก็อยากลองนั่งรถเมล์ที่ฮานอยดูบ้าง หน้าสถานีรถไฟฮานอยเป็นป้ายรถเมล์ด้วย ผมลองไปยืนดูยืนอ่านสักพัก ก็ตัดสินใจว่าเดินกลับเหมือนเดิมนั่นแหละ
เพราะอ่านไม่รู้เรื่อง และไม่รู้ว่าบริเวณที่พักเราเรียกว่าอะไร สื่อสารกันก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง เดี๋ยวมันจะไปกันใหญ่ ขนาดนั่งรถเมล์ใน กทม. ถ้าเป็นสายที่ไม่คุ้นยังหลงเลย ผมเองก็ไม่ได้หาข้อมูลเรื่องรถเมล์ที่ฮานอยมา จริงๆ เห็นว่ามี App สำหรับสายรถเมล์ด้วย

จากสถานีรถไฟผมเดินมาทางทะเลสาบฮว๋านเกี๋ยม (Hoan Kiem) ที่เราไปวันแรก ว่าจะไปซื้อกระเป๋าเดินทาง ที่นี่ราคาถูกกว่าบ้านเราเยอะเหมือนกัน ...ถือว่าเดินเที่ยวอีกเส้นทางนึงครับ

ผมว่าที่ฮานอยอนุรักษ์อาคาร หรือปรับปรุงได้ดีเลย ดูร่วมสมัยแต่ก็ยังมีกลิ่นอายแบบอดีต
Hanoi Police Museum

ด้านหน้าอาคารมีสวนหย่อมให้มานั่งเล่นเดินเล่นได้
ความประทับใจอย่างนึงที่ฮานอยก็คือ พื้นที่สีเขียวของเมือง มีเยอะและดูแลได้สวยงาม เทียบกับ กทม. บ้านเราแล้วมีพื้นที่สีเขียวน้อยไปหน่อย ส่วนใหญ่จะเป็นห้างสรรพสินค้า ส่วน จ.เชียงใหม่ ทุกวันนี้ก็เริ่มแออัด พื้นที่สีเขียวรอบนอกเมืองก็กลายเป็นหมู่บ้านจัดสรรไปเกือบหมดแล้ว
ตรงส่วนนี้เมืองไทยเราคงต้องระวังหน่อย คิดถึงอนาคตของเมืองที่ลูกหลานเราจะอยู่อาศัยให้ดีๆ

ในที่สุดก็กลับมาถึงที่พัก อาบน้ำพักผ่อนแล้วเราก็ยังมีแรงออกมาหาของกินกันต่อ 555+

มินิมาร์ทที่ขายสินค้าราคาปกติของที่นี่

เดินเที่ยวแถวที่พัก เจอร้านขายขนมคล้ายๆ ข้าวเกรียบปากหม้อ 30,000 VND อร่อยดี

ถนนเส้นด้านหลังที่พัก

เหมือนจะเป็นป้ายรถเมล์

ก่อนกลับก็แวะกินไอติมมะพร้าว 60,000 VND กับพุดดิ้ง 14,000 VND อีกเจ้านึง เยื้องๆ กับเจ้าเมื่อคืน

อังคาร 24 พฤษภาคม 2559

เช้าสุดท้ายที่ฮานอย เครื่องออกจากฮานอยเวลา 9.00 น. ถึงกทม. 10.50 น. แล้วก็ต่อเครื่องจากกทม. 13.55 น. ไปถึงเชียงใหม่ 15.15 น.
ตอนแรกตั้งใจว่าจะใช้บริการ Taxi ของทางโรงแรมให้ไปส่งที่สนามบิน แต่ด้วยความกรุณาของคุณครูแก้วและพี่แป๋ว ได้สละเวลาอันมีค่ามารับและไปส่งพวกผมที่สนามบินอีกครั้ง ดูแลดีมากๆ เลยครับ
ทำให้ทริปที่ฮานอย เป็นทริปที่น่าประทับใจอีกทริปนึงเลยครับ

ขอขอบพระคุณคุณครูแก้วและพี่แป๋วเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้อีกครั้งด้วยครับ

เช็คอิน รับตั๋ว

ด้านหน้าสนามบิน

ภายในสนามบินใหม่
ปล. สนามบินดอนเมืองอาคาร 2 บริเวณ Gate 15 ชั้น 2 มี 7-11 และด้านหลัง 7-11 จะมีโซนทานอาหารราคาไม่แพง ตรงทางเข้ามีร้านกาแฟมวลชน ถูกและอร่อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น