วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559

จองเอง เที่ยวเอง : เชียงใหม่-กรุงเทพฯ-ฮานอย Part 2

20-24.05.2016

อาทิตย์ 22 พฤษภาคม 2559

วันนี้เป็นวันนั่งรถ เพราะทริปไปเที่ยวฮาลองเบย์แบบ 1 วัน คือไปเช้า-เย็นกลับ จะใช้เวลาอยู่บนรถบัสประมาณ 8 ชั่วโมง ไป 4 ชั่วโมง กลับอีก 4 ชั่วโมง ทั้งๆ ที่ระยะทางจากฮานอยไปถึงฮาลองเบย์เพียงแค่ประมาณ 170 กิโลเมตรเท่านั้น

เหตุผลหนึ่งเพราะว่าที่เวียดนามเค้าจำกัดความเร็ว วิ่งได้ประมาณ 80-90 กม./ชม. และเส้นทางในช่วงท้ายๆ ถนนแคบ (ประมาณถนนในหมู่บ้าน) ข้อดีคือค่อนข้างปลอดภัย ข้อเสียคือ...น๊านนนนนาน...
สรุปว่าเรามีเวลานั่งเรือเที่ยวที่ฮาลองเบย์ประมาณ 4 ชั่วโมงเท่านั้น

เช้าวันนี้เราได้กินอาหารเช้าฟรีของทางโรงแรมแล้ว

อาหารนอกจากที่เห็นแล้ว ยังมีเมนูให้เราสั่งได้อีกประมาณ 10 อย่าง เป็นแบบฝรั่ง บอกพนักงานแล้ว พอปรุงเสร็จเค้าก็จะนำมาเสิร์ฟให้เราที่โต๊ะ...เป็นที่พักที่นอนสบายพร้อมอาหารเช้าที่ดีเลย 

ทานอาหารเช้าเรียบร้อยเราก็นั่งรอให้รถของทัวร์ที่เราซื้อไว้มารับ ประมาณ 8.00 น. รถก็มารับ
เป็น mini bus นั่งได้ประมาณ 15 คน
เค้าจะไปรับลูกค้าทีละโรงแรมจนครบตามที่จองไว้ พอครบแล้วไกด์ (ผู้หญิงผมยาวเสื้อน้ำเงิน ร่าเริงสนุกสนาน) ก็จะอธิบายรายละเอียดต่างๆ ทั้งการเดินทาง และกิจกรรมที่เราจะได้ทำเป็นภาษาอังกฤษ แจกน้ำเปล่าขวดเล็กคนละขวด จากนั้นก็เชิญพักผ่อนกันตามอัธยาศัย

เส้นทาง ถนน และบ้านเรือน จะเป็นแบบในวิดีโอนี้นะครับ


ขาไปผมยังสนุกกับการดูบ้านเมืองเค้าเลยไม่ได้หลับ แต่ขากลับนี่หลับเพลินเลย
เดินทางมาประมาณ 2 ชั่วโมง เค้าก็จะจอดแวะให้เราลงไปพัก เข้าห้องน้ำ และซื้อของที่ระลึก คล้ายๆ กับจุดจอดรถทัวร์บ้านเรา


ภาพที่เห็นเป็นงานปักด้วยมือ เค้ากำลังนั่งปักกันนั่นแหละครับ

มีเสื้อผ้า และของกินอื่นๆ ด้วย
หินแกะสลัก สวยงาม
หลังจากจอดให้พักกันประมาณ 20 นาที สมาชิกก็กลับมาขึ้นรถอย่างพร้อมหน้า โดยการติดตามของไกด์สาว ถ้าคนไม่ครบเราจะไม่ยอมไปไหน ^_^

ครับ ก็นั่งกันไปอีก 2 ชั่วโมง เมื่อรถเคลื่อนตัวออกไปไม่นาน ภายในรถก็พบกับความสงบ น้องไกด์สาวนั่งหลับคอพับกันเลยทีเดียว แฟนผมนี่หลับไปนานแล้วครับ ของถนัดเค้าเลย

หลังจากแอบฟังชาวบ้านเค้าคุยกันมาพักนึง สรุปได้ว่าสมาชิกทัวร์ของเรามีฝรั่ง ชาวเกาหลี ชาวจีน สิงคโปร์ และครอบครัวชาวญี่ปุ่น

ใจผมนี่อยากไปนั่งคุยกับเค้าเลยนะครับ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวสาวๆ ทั้งนั้น บางคนก็มาคนเดียว (สุดยอดมากๆ) บ้างมากัน 2 คน บ้างก็มาแบบคู่รัก...ผมอยู่หมวดนี้ และนี่คือเหตุผลที่ผมไม่อาจไปคุยกับนักท่องเที่ยวสาวๆ ได้ T_T

ประมาณ 12.00 น. เราก็มาถึงจุดลงเรือเที่ยวชมฮาลองเบย์ เป็นจุดจอดรถ และมีโรงแรมที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะค้างคืน

อาคารต้อนรับนักท่องเที่ยว...จากจุดจอดรถ เดินทะลุอาคารนี้ก็จะเจอท่าเทียบเรือ
มีไส้กรอก CP ขายด้วยครับ
ท่าเทียบเรือหน้าตาเยี่ยงนี้
แฟนผมเคยมาเมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว บอกว่าสมัยนั้นไม่เป็นอย่างนี้ ตอนนี้ดูดีกว่าเยอะ
เดินไปที่เรือ

คณะเราไปลำนี้
พอขึ้นเรือครบทุกคน เรือก็ออกจากท่า ...สักพักแม่ครัวบนเรือก็นำอาหารมาเสิร์ฟ นั่งโต๊ะละประมาณ 6 คน 3 โต๊ะ อาหารก็จะคล้ายๆ กับโต๊ะจีนบ้านเรา (ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะเกรงใจนักท่องเที่ยวท่านอื่น)

พอกินข้าวกันเสร็จทุกโต๊ะ ไกด์สาวก็จะชวนลูกทัวร์ออกไปชมวิวบนดาดฟ้าเรือ

ล่องเรือชมหมู่เกาะต่างๆ


วันที่ผมไปมีนักท่องเที่ยวเยอะ เรือหลายลำ การจราจรทางน้ำหนาแน่นใช้ได้เลย ผมไปวันอาทิตย์ด้วย ไม่รู้วันธรรมดาคนจะน้อยกว่านี้มั้ย คนเยอะเกินไปเราก็จะได้เที่ยวแบบเร่งๆ แย่งๆ กันหน่อย ขาดความสงบที่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศของธรรมชาติ แต่แหล่งท่องเที่ยวดังๆ คงเลี่ยงเรื่องพวกนี้ได้ยาก

ล่องเรือชมบรรยากาศของอ่าวฮาลองกันสักพัก เค้าก็จะมาจอดแวะให้เราลงไปนั่งเรือพาย หรือจะพายเองก็ได้ ถ้าพายเองจะได้เรือคายัคสำหรับ 2 คน แต่ถ้าเค้าพายให้จะนั่งได้ 4 คน

เรือแต่ละลำจะมาจอดรวมกันที่นี่

เพื่อให้นักท่องเที่ยวลงเรือคายัค หรือเรือพาย เที่ยวชมเกาะบริเวณนั้น

ท่าจอดเรือจะเป็นแพกลางน้ำ มีอาหารขาย  
เรือแบบมีคนพายให้จะเป็นแบบนี้ นั่งได้ 4 คน

พาลอดอุโมงค์

ด้านในอุโมงค์ ในรูปเป็นเรือคายัคแบบพายเอง 2 คน
บรรยากาศการล่องเรือแบบวิดีโอครับ


นั่งเรือพายครบรอบก็กลับมาที่เรือ แล้วก็ออกเดินทางกันต่อ ...เป้าหมายต่อไปคือถ้ำเทียนกุง



เห็นว่าเป็นเกาะเกี่ยวกับ "คู่รัก"


เรือจอดส่งเราตรงแถบสีขาวด้านบนซ้าย เราก็เดินผ่านภายในถ้ำ แล้วเรือมารับเราที่แถบสีขาวด้านล่างขวา
ข้อมูลจากป้ายบอกว่า ถ้ำเทียนกุง แปลว่าพระราชวังสวรรค์ ตั้งอยู่บนเกาะเด่าโก๋

เรือมาจอดส่งเราบริเวณนี้

จากนั้นเราก็เดินเข้าไปในถ้ำ

เป็นมรดกโลกด้วย

ภายในถ้ำติดไฟเป็นสีต่างๆ

แสงส่องเข้ามาสวยมาก

นักท่องเที่ยวเยอะเลย

ไกด์จะบรรยายว่าแต่ละจุดดูเหมือนรูปอะไร แต่ผมไม่ได้ฟัง มัวแต่ถ่ายรูป


มีแอ่งน้ำเป็นบางจุด

มีเวลาให้ไม่นาน ต้องรีบเดินออก เพราะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเรื่อยๆ

เดินตามเส้นทางภายในถ้ำไปเรื่อยๆ

จะมาโผล่ที่ท่าเทียบเรืออีกด้านหนึ่ง เรือจะมาจอดรับเราตรงนี้
จากนั้นเราก็นั่งเรือกลับไปขึ้นฝั่งที่เดิม

บริเวณเส้นขอบฟ้าทางซ้ายมือ คือตัวเมืองฮาลอง
พอมาถึงฝั่งก็นั่งรถกลับฮานอย ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง และแวะพักที่ครึ่งทางเหมือนเดิม
มาถึงตัวเมืองฮานอยประมาณ 19.30 น. รถจะแวะไปส่งลูกทัวร์ตามจุดที่พักของแต่ละคน หรืออยากจะลงบริเวณอื่นในเส้นทางก็แจ้งได้

ส่วนผมกลับที่พัก ล้างหน้าล้างตาแล้วค่อยออกมาหาอะไรกินเป็นมื้อค่ำ
เดินหาข้าวกินแถวๆ ที่พักไม่ค่อยมี  เลยเดินไปเรื่อยๆ จนมาเจอที่นี่ ราคาอาหารไม่แพง

เป็นร้านอาหารในโรงแรมอีกที
ดูดีน่ากิน

ถึงจะหน้าตาแปลกๆ แต่รสชาติอร่อยนะครับ
ข้าวทั้ง 2 จาน ราคารวมกันแค่ 105,000 VND เท่านั้น ถูกกว่าไปกินตามข้างทางอีก มีรูปและเมนูภาษาอังกฤษให้ดูด้วย ไม่ต้องกลัวสั่งผิด

กินข้าวเสร็จก็เดินหาของหวานกินต่อ แถวๆ ที่พักไม่มีร้านข้าว แต่มีร้านขนมตามข้างทางเพียบ


เมื่อวานเห็นวัยรุ่นเวียดนามนั่งกินไอติมในลูกมะพร้าวกัน ก็เล็งไว้แล้วว่าวันนี้จะมากิน อาศัยการชี้เอาจากที่โต๊ะข้างๆ ว่าเราจะเอาแบบนั้น ก็ได้ไอติมในลูกมะพร้าวมา 1 ลูก หน้าตาแปลกดี
ลูกละ 60,000 VND
สงสัยที่ฮานอยจะชอบกินไอติม มีร้านไอติมเยอะ หากินได้ง่าย รสชาติอร่อยดี อารมณ์เหมือนไอติมกะทิบ้านเรา
เสร็จจากอาหารคาว หวาน ก็ถึงเวลาเข้านอน ...นั่งรถนานๆ นี่ล้าเอาเรื่องเหมือนกัน กลับห้องไปนอนพักผ่อนกายาดีกว่า พรุ่งนี้ยังมีทริปเดินเท้าตะลุยฮานอยฝั่งตะวันตกรออยู่
เจอกันพรุ่งนี้ครับผม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น