20-24.05.2016
ไอเดียเรื่องไปเวียดนามมาจากการที่ผมสนใจอยากไปเที่ยวอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ตามกระแส "ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน" (AEC) และที่เลือกฮานอย เพราะอยากไป "ฮาลองเบย์" แน่นอนว่าแฟนผมเป็นคนจัดการจองตั๋วเครื่องบินของแอร์เอเชีย ในช่วงที่มีโปรโมชั่นถูกๆ คือจองกันข้ามปีจนลืมไปเลยว่าเคยจองตั๋วไว้ด้วย
มารู้ตัวอีกทีก็ใกล้เวลาเดินทางแล้ว ถึงเริ่มมาหาข้อมูลที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก และเช่นเคย ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตมีเพียบ (แต่ในตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่าข้อมูลเรื่องสนามบินมันไม่อัพเดท)
ตอนที่เราจองไม่มีตั๋วเครื่องบินเชียงใหม่-ฮานอย เราเลยต้องเดินทางจากเชียงใหม่ไปดอนเมือง แล้วค่อยต่อเครื่องจากดอนเมืองไปฮานอย และครั้งนี้ผมตัดสินใจไม่เอากล้อง DSLR ไป ตั้งใจว่าจะถ่ายด้วยกล้องจากโทรศัพท์มือถือ กับ Action Camera แค่นั้น
กล้อง DSLR ใหญ่และหนัก ไม่เหมาะกับการเที่ยวแบบของผม (เดินเป็นเรื่องหลัก หลงเป็นเรื่องตามมา) ผมเลยหาวิธีให้มีภาระติดตัวน้อยที่สุด และยังได้ภาพดีที่สุดเท่าที่ยังยอมรับได้
สำหรับครั้งนี้ภาพที่ได้มาก็น่าพอใจ ที่ไม่สะดวกคือ เวลาถ่ายรูปกลางแจ้ง มองภาพหน้าจอไม่เห็นเลย ต้องกะเอาเอง ไม่เหมือนมองผ่านช่องมองภาพของกล้อง DSLR อันนั้นได้ดังใจกว่า ส่วนโทรศัพท์มือถือ ถ่ายรูปเสร็จต้องมาดูว่าใช้ได้มั้ย ตรงตามที่อยากได้รึเปล่า และแบตฯ หมดเร็ว
**ภาพที่ลงในบทความนี้เป็นภาพจากมือถือ LG G3, Lenovo Vibe Z และ SJ Cam 5000+
ข้อดีอีกอย่างของโทรศัพท์มือถือก็คือ ใช้จดบันทึกได้เลย พวกค่าใช้จ่ายต่างๆ ... พกเครื่องเดียวทำได้ทุกอย่างจริงๆ เมื่อไหร่ที่ชาร์ตแบตเตอรี่ผ่านแสงอาทิตย์ได้คงหมดห่วงเรื่องแบตฯ หมด
สรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้งนี้
1.ค่าตั๋วเชียงใหม่-ดอนเมือง 2 คน : 2,050 บาท
2.ค่าตั๋วดอนเมือง-ฮานอย 2 คน : 2,145 บาท
3.ค่าตั๋วฮานอย-ดอนเมือง 2 คน : 2,145 บาท
4.ค่าตั๋วดอนเมือง-เชียงใหม่ 2 คน : 1,022.80 บาท
5.ค่าโรงแรมฮสิดารี เบดแอนด์เบรคฟาสต์ 1 คืน : 500 บาท
6.ค่าโรงแรม Hanoi 3B Homestay 3 คืน : 56.10 USD (รวมทิปเป็น 60 USD)
7.ค่าใช้จ่ายในฮานอย (กิน+เที่ยว+ของฝาก) : 150 USD
คิดเป็นเงินไทย (1 USD = 35 บาท) ตกคนละ 7,606.50 บาท
แต่ถ้าเดินทางจากกทม. เลย จะเหลือแค่คนละ 5,856 บาท เท่านั้นเอง...ถูกพอๆ กับเที่ยวในเมืองไทย
ศุกร์ 20 พฤษภาคม 2559
|
ภาพจาก LG G3 ในโหมด HDR ...ผมใช้ HDR ตลอด เพราะไม่ต้องมาแต่งภาพทีหลัง |
เราเดินทางจากเชียงใหม่ 10.55 น. ถึงดอนเมือง 12.10 น. ด้วยสายการบินไทยไลออนแอร์ เพราะได้ราคาถูกสุดในวันที่เราเดินทาง (อันนี้มาจองก่อนเดินทางไม่นาน) มีน้ำและขนมแจกเหมือนเดิม
|
สนามบินดอนเมือง ภาพจาก Lenovo Vibe Z |
โทรศัพท์มือถือของผม (LG G3) และแฟน (Lenovo Vibe Z) ตั้งสัดส่วนภาพต่างกัน จะได้แยกง่ายว่ามาจากกล้องตัวไหน ทั้ง 2 รุ่นใช้เซนเซอร์รับภาพของโซนี่รุ่นเดียวกัน (โทรศัพท์ทั้ง 2 รุ่นวางจำหน่ายปี 2557)
ผมเพิ่งรู้ว่าที่ดอนเมืองมีแอร์พอร์ตบัสก็วันที่ไปนี่แหละครับ (ปกติผมนั่งแท็กซี่ เพราะที่พักไกลและไปยาก) รถจะขึ้นทางด่วน มี 2 สาย คือ ปลายทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กับ ขนส่งหมอชิต ราคา 30 บาทตลอดสาย ออกจากประตูที่เห็นในภาพด้านบน ก็ขึ้นรถได้เลย ไม่ต้องออกไปขึ้นรถเมล์ที่ถนนด้านนอก
ราคาหลักร้อย ใกล้ MRT สุทธิสาร พร้อมอาหารเช้า (แต่เราไม่ได้กิน เพราะออกเช้ามืด) มีขนมปัง กาแฟ โอวัลติน ให้ทานฟรีทั้งวัน ฟรีไวไฟ คุณภาพโอเค ราคาถูก เดินทางสะดวก
ครั้งก่อนผมมากทม. เพื่อนพาไปกินบุฟเฟ่ต์หมูย่างเกาหลีอร่อย ครั้งนี้เลยต้องพาแฟนไปพิสูจน์
|
อยู่ Korean Town สุขุมวิท 12 ใกล้ BTS อโศก หรือ MRT สุขุมวิท |
ที่เลือกที่พักใกล้ MRT เพราะจะนั่ง MRT ไปกินหมูย่างนี่แหละ เวลาจำกัดต้องเลือกที่เดินทางสะดวก
|
หมูคนละ 290 บาท ในเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง |
|
เท่าที่เห็นนี่ ผมกับแฟนก็กินไม่หมดละ |
เป็นหมูย่างที่อร่อยที่สุดเท่าที่ผมเคยกิน (ผมไม่เคยกินแพงกว่านี้อ่ะนะ) นุ่มหวาน ไม่เหม็น ยังรู้สึกอร่อยทุกครั้งที่มากิน
กินเสร็จก็แวะไปดู X-Men: Apocalypse ที่ Terminal 21 เดินไปนิดเดียว (กทม. นี่เมืองแห่งห้างสรรพสินค้าจริงๆ มีทุกหย่อมหญ้า) หนังสนุกมาก สนุกจนรู้สึกพอใจกับการเดินทางครั้งนี้ละ ไม่ต้องไปฮานอยแล้วก็ได้...
เพราะว่าตอนที่หาข้อมูลเที่ยวฮานอย มีแต่ข้อมูลเกี่ยวกับโดนหลอก โดนโกง ทั้งทัวร์ ทั้งแท๊กซี่ โดนล้วงกระเป๋า มอเตอร์ไซค์น่ากลัว บีบแตรเสียงดังตลอดเวลา ฯลฯ อ่านข้อมูลแล้วแทบจะเอาตั๋วทิ้งแล้วนอนอยู่บ้าน ...แต่พอได้มาจริงๆ กลายเป็นว่ายังไม่อยากกลับ และอยากอยู่อีกนานๆ
เสาร์ 21 พฤษภาคม 2559
ตื่นตี 4 ครึ่ง อาบน้ำเก็บของ เช็คเอาท์ เดินออกจากที่พักมานิดเดียวก็เจอแท็กซี่...ช่วงเวลานี้เรียกแท็กซี่ง่าย ยิ่งไปดอนเมืองนี่น่าจะไปทุกคัน เผื่อจะได้รับลูกค้าจากสนามบินอีก ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ตี 5 กว่าๆ ก็มาถึงสนามบินดอนเมือง แฟนผมเช็คอินจากในอินเทอร์เน็ตมาแล้ว (แอร์เอเชีย) เราก็เขียนใบผ่านแดน แล้วเข้าไปรอข้างในได้เลย
เครื่องออก 6.45 น. ถึงฮานอย 8.30 น.
|
บินผ่านอีสานแล้วก็เวียงจันทน์ |
|
ถึงฮานอยแล้ว |
|
รันเวย์อยู่ติดทุ่งนาเลย |
|
หลังคาสีแดงทางซ้ายเป็นอาคารเก่า อาคารกระจกสีฟ้าทางขวาเป็นอาคารใหม่ |
อาคารเก่า (หลังคาสีแดง) ใช้สำหรับบินภายในประเทศ ส่วนอาคารใหม่ (อาคารกระจกสีฟ้าๆ) ใช้บินระหว่างประเทศ...ผมเพิ่งรู้ตอนที่ไปถึงนี่แหละ เพราะตอนหาข้อมูลยังมีแต่อาคารเก่าอยู่เลย
|
อาคารใหม่ดูดีทันสมัย |
|
ภายในอาคารสนามบินใหม่ |
|
เดินออกมาขึ้นรถด้านนอก |
เท่าที่ทราบอาคารใหม่เปิดใช้งานมาประมาณ 1 ปี และเท่าที่ผมหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตก่อนมายังไม่มีใครพูดถึงอาคารนี้เลย จะไปขึ้นรถเมล์ยังไงนี่ไม่รู้เลย...
แต่ความโชคดีที่สุดในทริปนี้ก็คือ แม่แฟนผมมีคนรู้จักอยู่ที่นี่ และเค้าสะดวกที่จะมารับพวกผมพอดี
ต้องขอกราบขอบพระคุณงามๆ คุณครูแก้วและพี่แป๋วที่สละเวลาอันมีค่า มารับพวกผมและพาเที่ยวฮานอยในวันที่ผมไปถึง เลี้ยงอาหาร และยังกรุณามาส่งในวันกลับอีกด้วย
ขอขอบพระคุณคุณครูแก้วและพี่แป๋วเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
ชีวิตเปลี่ยนเลยครับ จากคนที่เคว้งคว้างไม่รู้จะเดินทางต่อยังไง คนเวียดนามไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษด้วย พอมีคนในพื้นที่มารับและพาเที่ยว เสมือนพระมาโปรด นอกจากจะสะดวกในการเดินทางแล้ว ยังได้ความรู้อีกเพียบ
อาคารสนามบินใหม่เปิดใช้งานมาประมาณ 1 ปี ทั้งยังตัดถนนใหม่เพื่อวิ่งเข้าสู่ตัวเมืองฮานอยได้สะดวก สั้น และรวดเร็ว ถ้าต้องการใช้ขนส่งมวลชน มีรถเมล์สาย 86 เป็นแอร์พอร์ตบัส จากสนามบินเข้าตัวเมือง รวดเร็ว ราคาถูกกว่าแท็กซี่อยู่มาก
เมื่อหลายร้อยปีก่อนเวียดนามถูกปกครองโดยจีน จึงมีตัวอักษรจีนให้เห็นตามวัดจีนต่างๆ มากมาย จนถึงยุคล่าอาณานิคมเวียดนามถูกฝรั่งเศสปกครอง อาคารบ้านเรือน และภาษาที่ใช้จึงได้รับอิทธิพลมาจากฝรั่งเศส แต่ในปัจจุบันได้พัฒนาภาษาจนเป็นของเวียดนามโดยเฉพาะแล้ว
อาคารส่วนใหญ่หน้าแคบเพราะเสียภาษีตามหน้ากว้างของที่ดิน ค่าครองชีพในฮานอยค่อนข้างสูง
ในยุคสงครามเย็นเวียดนามเหนือได้รับการสนับสนุนโดยสหภาพโซเวียตและจีน ในช่วงที่ผมไปเที่ยวจึงเห็นธงชาติเวียดนามคู่กับธงค้อนเคียวตามจุดต่างๆ ในฮานอย ไม่แน่ใจว่ามีพิธีอะไร
สถานที่แรกในฮานอยที่ครูแก้วกับพี่แป๋วพาพวกผมไปประเดิมคือ Tran Quoc Pagoda ซึ่งอยู่บริเวณทะเลสาปตะวันตก
เป็นวัดพุทธ (มหายาน) ที่เก่าแก่ที่สุดในฮานอย ตัวสถูปมีอายุมากกว่า 1,450 ปี แต่เดิมตั้งอยู่อีกจุดหนึ่ง ก่อนจะย้ายมาไว้บริเวณนี้
|
เมื่อวานเป็นวันวิสาขบูชา เลยมีการจัดงาน |
|
ประตูทางเข้า |
|
ตัวสถูปได้รับการบูรณะในปี 2004 |
|
ใช้โหมด panorama คือ นำหลายภาพมาเรียงต่อกัน หลังคาเลยดูเบี้ยวๆ |
|
ศิลาจารึกยังใช้ภาษาจีนโบราณ |
|
ถ่ายด้วยโหมด panorama แนวตั้ง ภาพเหมือนเลนส์นูน |
|
โหมด panorama ทำลายข้อจำกัดเรื่องช่วงเลนส์ได้ คือเก็บภาพได้กว้างโดยไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์ |
วัด Tran Quoc Pagoda มีนักท่องเที่ยวเยอะทุกวัน เพราะเป็นสถานที่สำคัญที่ทัวร์มาลง ผมไม่ได้ถ่ายรูปทะเลสาบมา (กว้างมากกกก) เพราะมัวแต่สนุกกับการถ่ายรูปวัด และลองความสามารถต่างๆ ของกล้องจากโทรศัพท์มือถือ (เป็นครั้งแรกที่ไปเที่ยวจริงจังโดยใช้แต่กล้องจากโทรศัพท์มือถือ)
พี่แป๋วพามาที่นี่เพราะมีทั้งอาหารและเครื่องดื่ม อร่อยทั้งคู่เลยครับ แต่สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดคือ พอผมต่อไวไฟที่สาขานี้แล้ว เมื่อผมผ่านไปสาขาอื่น มันก็ต่อไวไฟให้อัตโนมัติ โดยไม่ต้องเข้าไปในร้านเลย และ Highlands Coffee มีสาขาเยอะมาก เล่นไวไฟฟรีได้เกือบทุกที่ในจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ
|
เฝอ ขนมปัง และกาแฟ อร่อยทุกอย่าง |
|
กรอบนอกนุ่มใน |
|
นั่งกินพร้อมชมความงามของ Hanoi Opera House |
|
ภายในมีภัตตาคาร nineteen 11 |
อิ่มท้องแล้วพี่แป๋วก็พาไปแลกเงินจาก USD เป็น VND จำนวนเงินจาก 150 USD เป็น 3,345,000 VND ได้มีเงินล้านกับเค้าแล้วเรา จากนั้นแวะไปดูสถานที่แสดงหุ่นกระบอกน้ำ แถวๆ Hoan Kiem Lake ฝั่งตะวันออกของฮานอย วันนี้ผมกับแฟนเลยได้นั่งรถผ่านจุดสำคัญๆ ของฮานอยที่ตั้งใจจะมาเที่ยว ถือโอกาสจดจำเส้นทางไปด้วย
|
บรรยากาศย่าน Old Quarter ใกล้ๆ ทะเลสาบ Hoan Kiem |
แวะซื้อของฝากพวกกาแฟ แล้วก็ไปกินไอติมที่วัยรุ่นฮานอยนิยม ร้านไอติม Trang Tien
|
ทางเข้าร้าน เข้าไปลึกเหมือนกัน |
|
สั่งไอติม |
|
ส่วนใหญ่ขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดด้านใน |
|
แบบโคน (KEM แปลว่าไอติม) |
|
แบบแท่ง |
ไอติมไม่มีรูปที่สมบูรณ์ให้ดูนะครับ เพราะซื้อมาปุ๊ปกินปั๊ป ถึงจะนึกได้ว่าต้องถ่ายรูปเก็บไว้ ^_^
อร่อยดี ราคาไม่แพง แบบเสียบไม้ แท่งละ 7,000-8,000 ดง (คูณด้วย 0.0016 จะเป็นเงินบาทแบบคร่าวๆ) แล้วแต่รสชาติ
|
จุดนี้ขายแบบแท่ง เค้าซื้อใส่กล่องกลับบ้านกัน |
|
ฝั่งตรงข้ามของร้านไอติม Trang Tien เพื่อใช้เป็นจุดสังเกต |
กินทั้งของคาวและของหวานแล้ว พี่แป๋วก็มาส่งเข้าที่พัก Hanoi 3B Homestay
http://www.hanoi3bhomestay.com/ พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ดี บริการเยี่ยม ห้องพักเกินราคา ที่สำคัญยังไม่ต้องจ่ายเงินแม้แต่บาทเดียวจนกว่าจะเช็คเอาท์ ถ้าจองผ่านเว็บไซต์ และมีบริการรับส่งที่สนามบิน (จ่ายเงินเพิ่ม) ตลอดเวลา 3 คืนที่พักที่นี่ ประทับใจในการบริการมากๆ
|
ห้องพักมี 9 ชั้น มีหลายราคาให้เลือก |
|
ทางซ้ายมือด้านหน้าที่พัก เดินตรงไป Old Quarter ได้เลย |
|
วิวจากดาดฟ้าโรงแรม |
|
มองเมืองมุมสูง |
|
แทงค์น้ำสีเทาใหญ่ๆ คือจุดสังเกตในการเดินมาโรงแรม |
|
Hang Dau Water Tank |
จัดข้าวของเครื่องใช้ นั่งพัก แล้วก็ออกไปลุยกันต่อ...จากนี้เราต้องเดินไปกันเองแล้ว
ครั้งนี้ผมได้เซฟกูเกิลแมพ แบบ offline ไว้ใช้เป็นแผนที่นำทาง วิธีการดูได้จากลิ้งค์นี้เลย
http://www.cnet.com/how-to/how-to-use-google-maps-offline-on-ios-android/ ซึ่งถ้าเราเปิด GPS ในมือถือ ตัวแผนที่จะสามารถระบุตำแหน่งเราแบบ real-time ได้เลย (ระบุตำแหน่งเราโดยใช้ดาวเทียม) สะดวกมาก
จุดแรกที่จะเดินไปกันเองคือทะเลสาบฮว๋านเกี๋ยม (Hoan Kiem) เพื่อจะไปดูหุ่นกระบอกน้ำ (อยู่ใกล้ๆ กัน) ผมเดินไปถึงประมาณ 16.00 น. แต่ที่รูปเป็นตอนกลางคืนเพราะผมมาถ่ายรูปอีกวันนึง ดูจากตารางเวลาการแสดงแล้ว เราเลือกรอบถัดไปตอน 17.20 น. ระหว่างนี้จะได้ไปเดินเล่นแถวๆ ทะเลสาบ
|
อาคารสีเขียวสูงๆ นี่แหละครับ |
|
ด้านหน้าเป็นช่องจำหน่ายตั๋ว |
|
รอบและเวลาในการแสดง ตั๋วราคา 100,000 VND |
|
บอกว่าเก่าแก่ที่สุด เพราะมีอีกเจ้าคนละฝั่งทะเลสาบ มีการแสดงหุ่นกระบอกน้ำเหมือกัน |
ซื้อตั๋วดูการแสดงหุ่นกระบอกน้ำเสร็จ เราก็เดินมาทางทะเลสาบฮว๋านเกี๋ยม เพื่อจะข้ามไปวัดหง็อกเซิน (Ngoc Son)
|
บรรยากาศรอบๆ ทะเลสาบ |
|
หลายๆ จุดในฮานอย เห็นมีอนุสาวรีย์ลักษณะนี้ตั้งอยู่ |
|
สะพานเทฮุก (The Huc) รอบๆ เกาะคือฝั่งซ้าย ข้ามไปที่สีเขียวๆ ฝั่งขวา |
|
เข้าทางนี้เพื่อไปสะพาน |
|
สะพานเทฮุก |
|
ค่าเข้าชมวัดหง็อกเซิน คนละ 30,000 VND |
|
เต่ายักษ์ในตำนาน |
|
บรรยากาศทะเลสาบเมื่อมองออกไปจากวัด |
|
ข้ามสะพานกลับ |
หลังจากเดินชมวัดหง็อกเซิน 1 รอบ เราก็เดินกลับไปที่จุดแสดงหุ่นกระบอกน้ำ เพื่อเข้าไปนั่งรอชม
ถึงเราจะมาซื้อตั๋วล่วงหน้า 1 ชั่วโมง แต่เราก็ยังได้ที่นั่งแถวหลังสุด ส่วนใหญ่ผู้ชมมาเป็นคณะทัวร์ ไกด์คงจัดการจองให้ แต่แถวหลังก็ยังมีข้อดี คือได้เห็นภาพมุมสูงๆ หน่อย
|
ก่อนเริ่มการแสดง |
|
ขณะทำการแสดง |
เป็นการแสดงที่น่าประทับใจมาก ดูสนุกทั้งๆ ที่ฟังภาษาเวียดนามไม่รุ้เรื่อง มีมุกตลกเป็นระยะ ขณะที่นั่งดูอยู่ผมก็นึกถึงการแสดงของไทยที่มีเอกลักษณ์และงดงามหลายๆ อย่าง รู้สึกว่าต้องกลับไปชมการแสดงที่เป็นศิลปะของไทยให้สมกับที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย (ขนาดนั้นเลย 555)
ออกมาแล้วเราก็เดินหาข้าวกินแถวๆ นั้น เจอร้านข้าวราดแกง และคิดว่าน่าจะสั่งอาหารได้แม้จะคุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะแค่ชี้ๆ ก็น่าจะได้
ข้าวเยอะมาก จนต้องคืนไป 1 ถ้วย ทีแรกสั่งกับข้าวไป 3 อย่าง แต่เค้าคงไม่เข้าใจเลยได้มา 2 อย่าง รสชาติอร่อยดี แต่พอคิดราคา 150,000 ดง นี่ถึงกับอึ้งไปเลย
กินข้าวเสร็จก็เดินเที่ยวต่อ ผ่านทะเลสาบฮว๋านเกี๋ยมอีกรอบ ตอนกลางคืนเปิดไฟแล้วสวยไปอีกแบบ
|
น้ำพุบริเวณรอบทะเลสาบ ด้านหลังเป็นย่าน Old Quarter |
จากข้อมูลที่หามา แถวๆ นี้ยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกคือ โบสถ์เซนต์โจเซฟ (St. Joseph's Cathedral) เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในฮานอย
|
โบสถ์เซนต์โจเซฟ (St. Joseph's Cathedral) |
เราเดินมาถึงที่นี่ประมาณ 19.10 น. ยังเห็นประตูโบสถ์เปิดอยู่ แฟนผมก็ชวนเข้าไปดูข้างใน ส่วนผมมัวแต่ถ่ายรูปด้านหน้า คิดว่าถ่ายรูปเสร็จค่อยเข้าไป ที่ไหนได้พอถ่ายรูปเสร็จประตูโบสถ์ก็ปิดเสียแล้ว TT ...นี่แหละผลของความประมาท
พลาดหวังจากการเข้าไปชมข้างในโบสถ์ จึงเดินกลับไปอย่างจ๋อยๆ บังเอิญได้มาเจอที่นี่ Chua Ba Da
|
ทางเข้า |
|
น่าจะเป็นป้ายเกี่ยวกับวันวิสาขบูชา (เมื่อวาน) |
|
ภายในสวยงาม |
จากนั้นเราก็เดินกลับที่พักผ่านทางเดิม รอบๆ ทะเลสาบฮว๋านเกี๋ยม
|
ร้านค้าบริเวณรอบๆ ทะเลสาบ |
ตรงกลางทะเลสาบฮว๋านเกี๋ยม มีหอคอยโบราณโผล่ขึ้นพ้นน้ำ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 เรียกว่า "ท้าปสั่ว" (Thap Rua) หมายถึง "หอคอยเต่า" หรือ "หอคอยตะพาบ"
|
"ท้าปสั่ว" (Thap Rua) |
|
รอบๆ ทะเลสาบฮว๋านเกี๋ยม จัดสวนดอกไม้สวยงาม อันนี้ไม่รู้มีงานอะไร |
เดินมาอีกหน่อยก็จะเจอสถานที่แสดงหุ่นกระบอกน้ำอีกแห่งหนึ่ง
|
อาคารสวยงาม |
|
มีการแสดงแค่ 2 รอบต่อวัน ค่าตั๋วเท่ากัน |
รอบทะเลสาบฮว๋านเกี๋ยมตอนกลางคืนบรรยากาศดี มีวัยรุ่น หนุ่มสาว มานั่งกันเป็นกลุ่ม เป็นคู่ ซื้อไอติมกินกัน น่าเดินเล่นทีเดียว แต่พรุ่งนี้มีทริปไปฮาลองเบย์ซึ่งออกเดินทางแต่เช้า เราเลยรีบกลับไปนอนดีกว่า
ช่วงบ่ายๆ ก่อนเข้าที่พัก พี่แป๋วพาเราไปซื้อตั๋วไว้แล้ว เป็นทัวร์ที่ผมหาข้อมูลมาจากในพันทิป ชื่อ The Sinh Tourist
https://www.thesinhtourist.vn/landscapes/hl/1/ha-long ผมซื้อแบบ 1 วัน (ไปเช้า-เย็นกลับ) จะเป็นยังไงเดี๋ยวตอนหน้ามาเล่าให้ฟัง คืนนี้ไปซื้อน้ำเปล่าตุนไว้ก่อน เมืองท่องเที่ยวนี่ขายน้ำเปล่าแพง ใกล้ๆ ที่พักผมเจอมินิมาร์ทขายของราคาเป็นธรรม ตามรูปด้านล่างเลยครับ
|
มีขนมของเมืองไทยขายอยู่หลายยี่ห้อเลย |
...อ่านต่อ Part2 >>
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น