วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2568

เต่านากับปลาหางนกยูง

"ตราบที่เรายังคิดถึงกัน ความรักนั้นก็ยังคงอยู่"

เต่านานึกถึงคำพูดที่ปลาหางนกยูงคู่รักพูดทิ้งไว้ก่อนตาย

คำพูดที่เป็นกำลังใจให้มันมีชีวิตเรือยมา

นานมากแล้วนับแต่วันที่ปลาหางนกยูงจากเต่านาไป

ในตอนนั้นเต่านายังเป็นเต่านาหนุ่มที่เต็มไปด้วยพลังชีวิต

การได้เจอปลาหางนกยูงสาวสวยก็เหมือนได้โลกอีกใบมาเติมเต็มกันและกัน

ตั้งแต่แรกพบ เต่านาก็ไม่อาจละสายตาจากปลาหางนกยูงสาวได้เลย

ความพริ้วไหวของปลาหางนกยูงยามแหวกว่ายในลำธาร

แววตาที่สดใสยิ่งกว่าสายน้ำ

บทสนทนาที่เปี่ยมชีวิตชีวา

ทุกครั้งที่เต่านาหนุ่มได้คุยกับปลาหางนกยูงสาว

เขารู้สึกราวกับว่าโลกมลายหายไป

มีเพียงเขาและปลาหางนกยูงสาวที่ล่องลอยอยู่ในห้วงที่ไร้กาล

ทั้งคู่ใช้ชีวิตเคียงคู่กันอย่างมีความสุข เป็นคู่รักที่แปลกใหม่ในสารธารนี้

2 ปีผันผ่าน

ในที่สุดก็มาถึงบั้นปลายอายุขัยของปลาหางนกยูง

แม้อยู่ในวาระสุดท้าย ปลาหางนกยูงสาวก็ยังห่วงใยเต่านาหนุ่ม

"ถ้าหนูไม่ได้เจอพี่ หนูก็คงใช้ชีวิตเหมือนปลาหางนกยูงทั่ว ๆ ไป

แต่การได้เจอพี่ ทำให้หนูได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ เป็นชีวิตที่สนุกและมีความสุขเหลือเกิน"

ปลาหางนกยูงพูดในขณะที่มองหยดน้ำตาที่ไหลออกมาจากสองตาของเต่านาหนุ่่ม

"ขอบคุณนะคะ" ปลาหางนกยูงพูดด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น

เต่านาหนุ่มมีถ้อยคำมากมายในใจ แต่มีเพียงเสียงสะอื้นไห้ที่เปล่งออกมา

ปลาหางนกยูงสาวมองไปที่หัวใจของเต่านาหนุ่ม แล้วถามว่า

"ตรงนั้นมีหนูอยู่ใช่มั้ยคะ"

เต่านาหนุ่มพยักหน้าทั้งน้ำตา

ปลาหางนกยูงสาวยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะพูดว่า

"ตราบที่เรายังคิดถึงกัน ความรักของเราจะอยู่ตรงนั้นเสมอนะคะ"

สิ้นคำพูด ปลาหางนกยูงสาวก็หมดลมหายใจ และไหลไปตามลำน้ำ

ทิ้งให้เต่านาหนุ่มร้องไห้ปานจะขาดใจ

เมื่อหมดสิ้นเรี่ยวแรงจะร้องไห้ต่อไป เต่านาหนุ่มก็มองไปที่ลำธาร

ภาพของปลาหางนกยูงสาวก็ปรากฏขึ้นมา แม้จะเลือนลาง

แต่ก็เพียงพอให้แววตาที่เปื้อนน้ำตานั้นมีรอยยิ้มออกมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น