วันศุกร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2568

แมลงวันพิการ

 แมลงวันพิการมองดูแมลงวันเกเรที่ติดอยู่บนแผ่นกาวดักแมลงวัน และกำลังดิ้นรนสุดชีวิตเพื่อให้หลุดออกมา

ก่อนหน้านี้แมลงวันเกเรมักพาเพื่อน ๆ มากลั่นแกล้งแมลงวันพิการ ทั้งให้กินขี้ กินซากสัตว์ที่เน่าเหม็น 

ทำให้แมลงวันพิการต้องกล้ำกลืนฝืนกินด้วยความอร่อย 

และรอคอยให้แมลงวันเกเรพาผองเพื่อนมาแกล้งมัน เพื่อจะได้กินซากสัตว์อร่อย ๆ พวกนั้นอีก

แม้มันจะไม่ชอบโดนกลั่นแกล้ง แต่นั่นก็ทำให้มันมีอาหารกิน

เนื่องจากมันพิการมีปีกข้างนึงเล็กกว่าปกติ มันจึงบินได้ไม่ไกล หาอาหารกินเองลำบาก

นี่อาจเป็นทางรอดเดียวของมัน คือเป็น "เหยื่อ"

และมันก็เป็นเหยื่อมืออาชีพที่รู้วิธีอยู่รอด แม้จะช้ำใจแต่ข้างในก็อิ่มท้อง

ขณะที่มันมองแมลงวันเกเรติดแผ่นกาวอยู่นั้น ใจนึงมันก็สมน้ำหน้า แต่อีกใจมันก็กลัวว่าหลังจากนี้จะไม่มีใครพาไปกินขี้

สุดท้ายมันก็ตัดสินใจไปบอกเพื่อน ๆ แมลงวันเกเรให้มาช่วยพาแมลงวันเกเรออกจากแผ่นกาว

พอออกจากแผ่นกาวได้แมลงวันเกเรตรงเข้ามาขอบคุณแมลงวันพิการเป็นการใหญ่

แต่ก็อดที่จะถามไม่ได้ว่า 

"ทั้ง ๆ ที่เราแกล้งนายมาตลอด ทำไมนายถึงยังช่วยเราอีก"

แมลงวันพิการตอบว่า

"เราเข้าใจความรู้สึกของคนที่ต้องการความช่วยเหลือดี 

เพราะเราถูกกลั่นแกล้งมาทั้งชีวิต และรอให้ใครสักคนมาช่วย

แม้จะไม่มี แต่ก็เราบอกกับตัวเองว่า ถ้าวันนึงเรามีโอกาสเลือก

เราจะเป็นผู้ช่วยเหลือ ไม่ใช่ผู้กลั่นแกล้ง"

แมลงวันเกเรได้ยินถึงกับน้ำตาไหลพราก และโผเข้ากอดแมลงวันพิการ จนขาที่ยังเปื้อนกาวติดกันพัลวัน

ต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าทั้ง 2 ตัวจะแยกออกจากกันได้

แมลงวันเกเรสัญญาว่าต่อไปนี้จะไม่แกล้งแมลงวันพิการอีก 

ทำให้แมลงวันพิการแอบช็อกอยู่ในใจ เพราะกลัวจะไม่มีใครพาไปกินขี้อีก

วันรุ่งขึ้นแมลงวันเกเรและพรรคพวกจึงพาแมลงวันพิการไปกินขยะเปียกที่สดใหม่จากร้านอาหาร

แม้กลิ่นเหม็นเน่าจะไม่เร้าใจ แต่ก็มีความหลากหลายให้เลือกสรร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น