วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

หอยทากน้อย

 หอยทากอาวุโสเคลื่อนที่มาเห็นหอยทากเด็กที่มีสีหน้าคร่ำเคร่ง จึงคืบคลานเข้าไปหา

"เป็นอะไรไปหนูน้อย ทำไมดูเครียดจัง" หอยทากอาวุโสถาม

"หนูไม่อยากเป็นหอยทากแล้ว" หอยทากเด็กตอบ

"อ้าว ทำไมละหนู"

"เป็นหอยทากแล้วไม่มีใครรักหนูเลย"

"ไหนเล่าให้ลุงฟังสิ เรื่องมันเป็นมายังไง"

หอยทากเด็กหยุดไปนิดนึง ก่อนจะเล่าให้ฟัง

"เมื่อกี้หนูเข้าไปกินชมพู่ที่หล่นตามพื้น แล้วได้ยินพวกหนอนคุยกันว่า หอยทากนี่มันอัปลักษณ์จริง ๆ เคลื่อนที่ก็ช้า หน้าตาก็น่าเกลียด ไม่เหมือนหนอนอย่างพวกเราที่รอวันเป็นผีเสื้อแสนสวย บินไปมาได้อย่างอิสระ"

หอยทากเด็กสะอื้นด้วยความเสียใจ ก่อนจะพูดต่อ

"ทำไมหอยทากถึงไม่สวยแบบผีเสื้อบ้างละคะ"

หอยทากอาวุโสมองหอยทากเด็กด้วยความเอ็นดู แล้วอธิบายว่า

"ความสวยมันเป็นเรื่องของมุมมองนะ ถึงแม้เราจะเป็นเหมือนผีเสื้อไม่ได้ แต่เราก็หาความสวยในแบบของเราได้นะ"

เมื่อเห็นว่าหอยทากเด็กเริ่มสนใจ หอยทากอาวุโสจึงอธิบายต่อ

"รู้มั้ยว่าเมือกของเรามนุษย์นำไปบำรุงผิวให้เต่งตึงเพื่อความสวยงาม"

"จริงเหรอคะ" หอยทากเด็กแปลกใจ

"แล้วก็เอาไปรักษาแผลไฟไหม้ ใช้เป็นยาชาเฉพาะที่ แล้วก็อีกหลายอย่างเลยนะ" หอยทากอาวุโสบรรยายสรรพคุณ

"โอ้โห สุดยอดไปเลย" หอยทากเด็กอุทานด้วยความชื่นชม

เมื่อเห็นหอยทากเด็กเริ่มเปิดใจแล้ว หอยทากอาวุโสจึงพูดให้ข้อคิด

"คำตำหนิก็เหมือนเปลือกหอยของเรานี่แหละ ถ้าเราแบกมันไว้เฉย ๆ ก็หนักเปล่า ๆ แต่ถ้าเราใช้ไว้ป้องกันตัวมันก็เป็นประโยชน์

คำตำหนิจะเป็นภาระทางจิตใจ หรือจะเป็นคำเตือนให้เราได้คิดได้ปรับปรุงตัว ก็อยู่ที่เราเลือกใช้ ส่วนคำตำหนิที่เราแก้ไขไม่ได้ก็ควรจะปล่อยมันไป"

เมื่อหอยทากอาวุโสพูดจบ หอยทากเด็กก็เริ่มคิดตาม

จนกระทั่งหอยทากอาวุโสชวนไปหาชมพู่ฉ่ำ ๆ กิน หอยทากเด็กก็คืบคลานตามไปด้วยสีหน้าที่ผ่อนคลายกว่าเดิม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น