"ปัจจุบัน" เป็นสิ่งที่เราไม่อาจรับรู้ได้จากประสาทสัมผัสภายนอก
เพราะเมื่อตามองเห็น "รูป"
ข้อมูลนั้นต้องใช้เวลาในการส่งมาที่สมอง
แม้เพียงเสี้ยววินาที แต่นั่นก็เป็น "รูป" ที่ผ่านไปแล้ว
ทั้ง "เสียง" "กลิ่น" "รส" "สัมผัส"
ต่างต้องใช้เวลาในการส่งข้อมูลมาให้สมอง
สมองจึงทำได้เพียงรับรู้ข้อมูลอดีต
แล้วค่อยแปลความหมายออกมา
เพราะฉะนั้นสมองจึงไม่เคยรับรู้สภาวะของปัจจุบันเลย
คนส่วนใหญ่จึงจมอยู่กับ ความคิด ความคาดหวังต่ออนาคต
หรือความทรงจำในอดีต
ซึ่งถูกแปลงออกมาเป็น สุข หรือ ทุกข์ ให้ใจได้เสพไม่สิ้นสุด
ในพุทธศาสนาพบว่า "สติ" จะเป็นตัวพา "ปัญญา" มารู้ถึงการเกิดขึ้นของ สุข ทุกข์
นั่นคือ "ปัญญา" เป็นตัวรู้
มาเห็นการเกิดขึ้นอย่างเป็นลำดับ
เห็นการเกิดขึ้น การตั้งอยู่ และเมื่อหยุดเติมเชื้อ มันย่อม ดับไป
"ปัญญา" จึงเป็นสภาวะปัจจุบันที่แยกออกจากความคิดของสมอง
ความคิดที่ปราศจากปัญญา จะวนเวียนครุ่นคิดไม่สิ้นสุด
แต่ถ้าปัญญามาถึง ก็จะเป็นตัวเข้าไปตัดขั้นตอนความคิด
ทำให้เราหยุดปรุงสุข ปรุงทุกข์ต่างๆ ได้
เมื่อหยุดส่งเชื้อให้ความคิด
ความคิดก็ไม่อาจปรุงสุข ทุกข์ต่อไปได้
ใจก็สงบ
สมองก็ได้พัก
เราก็ไม่ต้องทุกข์
ไม่ต้องสุข
"ว่าง" เท่านั้นเอง
ปล.คำอธิบายเรื่องนี้อย่างละเอียดและเป็นลำดับ หาอ่านได้จาก "ปฏิจจสมุปบาท" ของท่านพุทธทาสฯ นะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น