วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ผึ้งเห็นแก่ตัว

 ผึ้งวีเป็นผึ้งงานอาวุโส คอยดูแลผึ้งงานน้องๆ ให้ช่วยเหลือกันทำงานเป็นอย่างดี 

มันจะออกไปเอาน้ำหวานจากดอกไม้เป็นตัวแรก และกลับมาเป็นตัวสุดท้ายเสมอ

จนกระทั่งมีแก๊งผึ้งละอ่อนเกเรที่ขี้เกียจและเห็นแก่ตัวโผล่ออกมาจากดักแด้

สร้างความปั่นป่วนให้กับชาวผึ้งงานในรังเป็นอย่างมาก

ผึ้งวีจึงอาสาเข้ามาปรับทัศนคติของแก๊งผึ้งละอ่อนเกเร

โดยการที่ผึ้งวีชวนชาวแก๊งผึ้งละอ่อนเกเรนั่งล้อมวงดื่มน้ำหวาน จับเข่าคุยกันหลังดวงอาทิตย์ตกในเย็นวันหนึ่ง

เมื่อดื่มน้ำหวานจนได้ที่ ผึ้งวีก็เล่าเรื่องในอดีตของตนให้แก๊งผึ้งละอ่อนฟัง

...สมัยก่อนผึ้งวีเคยเป็นผึ้งที่ขี้เกียจและเห็นแก่ตัว

ไม่ยอมช่วยเพื่อนๆ ออกไปเก็บน้ำหวานจากดอกไม้มาสะสมไว้ในรัง แต่มักจะแอบขโมยกินน้ำหวาน จนเพื่อนๆ เอือมระอา

แต่มีผึ้งตัวหนึ่งชื่อ ผึ้งเอ ซึ่งเปรียบเสมือนหัวหน้าของผึ้งงานทั้งหมด

กลับไม่เคยต่อว่าอะไร แถมยังแบ่งน้ำหวานให้กินอีกด้วย

ทีแรก ผึ้งวี ก็คิดว่า ผึ้งเอ แกล้งทำดีเพื่อสร้างภาพ

เลยค่อยแกล้งผึ้งเอต่างๆ นานา 

แต่ผึ้งเอก็ไม่เคยโกรธ ยังคงแบ่งปันน้ำหวานให้ผึ้งวีอยู่เสมอ

และผึ้งเอก็ทำอย่างนี้กับผึ้งทุกๆ ตัว คอยเอื้อเฝื้อแบ่งปันให้กับผึ้งในรังทุกตัว

จนวันหนึ่ง รังผึ้งถูกหมีควายวัยรุ่นโจมตี เพื่อหวังจะกินน้ำผึ้งในรัง

ผึ้งงานต่างพุ่งเข้าจู่โจมหมีควายตัวนั้นอย่างเอาชีวิตเข้าแลก

ต่างก็ปล่อยเหล็กในใส่หมีควายวัยรุ่นที่ยังอ่อนประสบการณ์

สถานการณ์ของผึ้งและหมีควายยังก้ำกึ่ง ไม่รู้แพ้ชนะ

วินาทีนั้น ผึ้งเอ ตบที่บ่าของ ผึ้งวี เบาๆ แล้วบอกให้ผึ้งวีช่วยดูแลรังหลังจากนี้

พูดจบผึ้งเอก็บินตรงไปที่หมีควาย แล้วปล่อยเหล็กในใส่ดวงตาของมัน

จนทำให้หมีควายต้องวิ่งหนีไปพร้อมกับความเจ็บปวด

ส่วนผึ้งเอก็จบชีวิตลงที่ตรงนั้น

และรังผึ้งของพวกเราก็รอดมาได้เพราะความสามัคคีของผึ้งงานทุกตัว

ที่เสียสละชีวิตของตนเพื่อให้ราชินีและผึ้งรุ่นต่อๆ ไปได้มีชีวิตอยู่รอดในรังนี้

ทำให้แก๊งผึ้งละอ่อนได้มีโอกาสลืมตาขึ้นมาดูโลกและนั่งดื่มน้ำหวานอยูตรงนี้

แก๊งผึ้งละอ่อนได้ฟังเรื่องราวที่ผึ้งวีเล่า แล้วก็มีใจฮึกเหิม

ต่างก็บินออกไปเก็บน้ำหวานกลับมาที่รัง

ส่วนผึ้งวีก็ลุกขึ้นยืนเกาะขอบรัง พลางทอดสายตาออกไปแสนไกลด้วยความคิดถึงผึ้งเอและเพื่อนๆ ในวันนั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น