ไฟแห่งการเดินทางของพ่อผมปะทุขึ้นอีกครั้ง จริงๆ ก็ปะทุบ่อยแหละครับ เพราะพ่อผมเกษียณแล้ว แต่ต้องรอให้ผมว่างจากการทำงานด้วย เมื่อพวกเรามีเวลาว่างตรงกัน การเดินทางจึงเริ่มต้นขึ้น
เป้าหมายคือ "วัดพระบาทปู่ผาแดง" หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า "วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์" ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 7 บ้านทุ่งทอง ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง
พ่อผมอยากไปที่วัดนี้มานานแล้ว ตั้งแต่มีรายการทีวีไปถ่ายภาพทางอากาศมาโชว์ให้ดูนั่นล่ะครับ ดูสวยงามและน่าชื่นชมในศรัทธาของผู้สร้างจริงๆ ขนวัสดุอุปกรณ์ขึ้นไปสร้างกันบนยอดเขาสูงชัน น่าทึ่งมากๆ
วันนี้เราออกเดินทางกันหลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ อยู่ลำปางไปเที่ยวลำปาง ไม่ต้องรีบร้อนครับ ไปกันแบบสบายๆ ผ่อนคลาย ขับรถชมวิวข้างทางกันมาเรื่อยๆ จนถึงที่ตั้งของวัดพระบาทปู่ผาแดง ใน อ.แจ้ห่ม จากถนนหลักขับเข้าไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร สำหรับผู้ที่นำรถส่วนตัวมา ต้องจอดไว้ตรงลานจอดรถด้านล่างของวัด แล้วโดยสารรถกระบะที่ให้บริการบริเวณนั้น พอผู้โดยสารเต็มคันก็จะวิ่งขึ้นไปส่งที่ด้านบน รถกระบะมีหลายคันไม่ต้องรอนาน
เหตุที่ไม่ให้ขับรถขึ้นไปกันเองก็เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวครับ เพราะทางแคบและชัน บางจุดไม่สามารถสวนกันได้ รถกระบะที่ให้บริการจะมีคิว และประสานงานกันระหว่างด้านบนกับด้านล่าง ไม่ให้สวนกัน
ค่าโดยสารคนละ 100 บาท ระยะทางจากจุดจอดรถด้านล่างถึงจุดจอดรถด้านบนประมาณ 500 เมตร แต่เป็นทางชันมาก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที (ขาลงเร็วกว่าเหลือสิบกว่านาที)
พอได้นั่งรถที่เค้าให้บริการขึ้นไปด้านบน ผมถึงได้รู้ว่าดีแล้วที่เค้ามีรถไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอย่างนี้ ไม่อย่างนั้นคงวุ่นวายและอันตรายน่าดู ทางชันและแคบจริงๆ ถ้าไม่ชำนาญทางอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ เลย
พอขึ้นมาถึงจุดจอดรถด้านบน ยังต้องเดินเท้าไปอีกประมาณ 300 เมตร แต่เป็น 300 เมตร ที่เหนื่อยมากๆ รู้สึกเลยว่าต้องหาเวลาออกกำลังมากกว่านี้
มาครั้งนี้ผมไม่ได้พกกล้อง DSLR มาเพราะไม่อยากแบกของหนัก เลยเอามาแต่กล้อง Action Camera ตัวเล็กๆ จะได้เอามาลองใช้งานด้วย ได้ภาพมาประมาณนี้ครับ
ภาพทางเดินผมถ่ายตอนเดินลงนะครับ ตอนเดินขึ้นเหนื่อยไม่อยากถ่ายอะไรทั้งนั้น เดินไปพักไป ลื่นไป ถ้าแต่งตัวให้รัดกุมและใส่รองเท้าสำหรับเดินป่าน่าจะเหมาะที่สุด แต่เท่าที่เห็น คุณป้า คุณยาย ใส่รองเท้าแตะคีบก็เดินขึ้นกันได้ไม่มีปัญหา...-_-"
เดินขึ้นมาถึงด้านบนจะมีลานให้นั่งพัก มีเจ้าหน้าที่แจกแอมโมเนียให้ดม พอพักจนหายเหนื่อยก็เดินขึ้นไปชมจุดชมวิวที่เค้าจัดไว้ให้ วิวสวยงามบรรยากาศดี นั่งเล่นที่ศาลาก็เพลินครับ
ส่วนที่เป็นเจดีย์ตามยอดเขา เค้าไม่ให้เดินไปนะครับ อันตราย
ชื่นชมความงามและบรรยากาศกันจนพอใจแล้ว ผมกับพ่อ (แม่ผมไม่ได้ขึ้นมา) ก็เดินลงไปรอขึ้นรถกลับลงไปด้านล่าง...การนั่งรถขึ้นลงที่นี่ มันส์มากครับ เหมือนนั่งเครื่องเล่นในสวนสนุก ^_^
เสร็จจากวัดพระบาทปู่ผาแดงแล้ว เราออกไปหาที่ทานอาหารกลางวัน พ่อผมบอกว่าแถวนี้มีร้านกาแฟมีชื่อของจังหวัดลำปาง (เท่าที่ผมรู้ร้านกาแฟก็มีชื่อทุกร้านนะครับ จะได้ไม่สับสนเวลาเรียก ^_^)
และแล้วเราก็เจอร้านกาแฟเป้าหมาย ขับออกมาจากวัดพระบาทปู่ผาแดงไม่ไกลครับ จะสังเกตเห็น "วัดคาทอลิก แม่พระราชินีแห่งสันติภาพ" อยู่ติดถนน ส่วน "ร้านกาแฟบรูโน" ก็ตั้งอยู่ด้านหน้านั่นแหละครับ
ร้านกาแฟบรูโน |
ในร้านมีประวัติความเป็นมาให้อ่าน |
สำหรับคอกาแฟที่อยากมาทดสอบรสชาติกาแฟระดับโลก แวะมาชิมกันได้ที่นี่เลยนะครับ ส่วนตัวผมไม่กินกาแฟเลยไม่ได้ชิม มีพ่อผมกินคนเดียว ผมสั่งโกโก้มาแทน
เราถือโอกาสแวะทานอาหารกลางวันกันที่นี่เลย เพราะเราเตรียมเสบียงมาจากที่บ้าน เสมือนไปปิคนิค บรรยากาศดีมากครับ ภายในรั้วโบสถ์มีเลี้ยงแกะด้วยนะครับ ให้น้องๆ พาไปป้อนอาหารได้
ทานข้าวกลางวันกันเรียบร้อยจึงออกเดินทางไปสู่จุดหมายต่อไป คือน้ำพุร้อน น้ำตกแจ้ซ้อนนนนนนน....ขับรถขึ้นเหนือไปทาง อ.เมืองปาน อีกไม่ไกลครับ
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เป็นสถานที่ที่ผมเคยมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ยังไม่มีการก่อสร้างอะไรมากนัก บริเวณน้ำพุร้อน ยังไม่มีอาคาร คนก็ไปนั่งแช่น้ำร้อนกันกลางแจ้ง จนมาทุกวันนี้มีอาคารเป็นสัดส่วน
เวลามาที่นี่ผมมักจะไปที่น้ำตกก่อน ไปรับความเย็น ปกติจะเดินขึ้นไปด้านบนของน้ำตก แต่วันนี้ยังเหนื่อยจากการเดินขึ้นไปสักการะวัดพระบาทปู่ผาแดง จึงหยุดอยู่ที่น้ำตกชั้นล่าง
เย็นชุ่มช่ำ |
เพลิดเพลินกับน้ำตกแล้วก็เดินย้อนกลับมาที่น้ำพุร้อน
ดอกไม้สวยๆ ระหว่างทาง |
รอบๆ เป็นป่าไผ่ |
จุดลวกไข่ |
แดดแรงจริงๆ ครับ |
เป็นอันเสร็จภาระกิจการเดินทางท่องเที่ยวของเราในวันนี้ครับ สำหรับหนึ่งวันในลำปาง จริงๆ ยังมีสถานที่ที่่น่าสนใจในจังหวัดลำปางอีกหลายที่นะครับ เชื่อว่าแม้แต่คนลำปางเองก็ยังไปกันไม่ครบทุกที่ เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวต่างถิ่น เชิญมาสัมผัสธรรมชาติ บรรยากาศเก่าๆ ของตึกรามบ้านช่องและวิถีชีวิตผู้คน ที่นครลำปางแห่งนี้กันได้นะครับ
ปล.ภาพนิ่งในบทความนี้ใช้กล้องของโทรศัพท์มือถือนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น