วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559

จองเอง เที่ยวเอง : เชียงใหม่-ฮ่องกง-มาเก๊า Part 2

03-07.11.2016


เสาร์ 5 พฤศจิกายน 2559

     เช้านี้ร่างกายเริ่มดีขึ้น เหมือนได้พักผ่อนเพียงพอละ เริ่มโปรแกรมด้วยการตามหาอาหารเช้า วันนี้เราจะไปกินบะหมี่ร้าน Kai Kee (http://hongkongfanclub.blogspot.com/p/blog-page_914.html) ร้านนี้อยู่ใกล้กว่าเมื่อวาน เดินไปหน่อยเดียวก็ถึงแล้ว
ร้าน Kai Kee


บะหมี่อร่อยมาก

ลูกชิ้นก็อร่อย
     ร้านโจ๊กเมื่อวานก็มีบะหมี่ขาย อร่อยด้วย แต่บะหมี่ที่ร้านนี้อร่อยกว่า เส้นละเอียด นุ่ม เหนียว กำลังดี ในเมืองไทยหาบะหมี่แบบนี้กินยาก ของบ้านเราเส้นคนละแบบกัน
     
     จากนี้เราจะข้ามไปเกาะฮ่องกง (ฝั่งที่เราพักเรียกว่า "เกาลูน" ติดแผ่นดินใหญ่ ส่วนแถวๆ สนามบินเรียกว่า "เกาะลันเตา") โดยการนั่งเรือ ซึ่งผมยังไม่เคยลอง คราวนี้เลยอยากเดินทางให้ได้หลายๆ รูปแบบ
     หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเราก็เดินลงไปทางทิศใต้ เพื่อไปขึ้นเรือ
มีป้ายบอกทาง ไม่หลงแน่นอน (จริงเหรอ 555+)
ข้ามถนนไปฝั่ง Hong Kong Space Museum เดินง่ายหน่อย



ผ่าน The Penisula Hong Kong
เราเพิ่งจะได้เดินเที่ยวชมบรรยากาศแถวๆ ที่พักก็วันนี้แหละ

ใกล้ถึงละ สังเกตได้จากหอนาฬิกา ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "Former Kowloon-Canton Railway Clock Tower"

ท่าเรืออยู่ขวามือ ส่วนทางซ้ายมือเป็นจุดชม A Symphony of Lights

     4 ปีก่อนผมชม A Symphony of Lights ตรง Avenue of Stars (เลยไปทางซ้ายอีกหน่อย) แต่ครั้งนี้เค้าปิดซ่อมบำรุง และก็มีจุดใหม่ให้ชมได้เป็นตรงนี้ (4 ปีที่แล้วยังไม่มีมั้ง)
มุมมองจากบนจุดชมวิวแบบ Panorama

มีเรือเข้ามาจอดพอดี เห็นแล้วก็อยากเดินทางด้วยเรือแบบนี้สักครั้ง ลำใหญ่เท่าตึก

หันกลับไปดูวิวด้านหลัง

อาคารโค้งสีน้ำตาลคือ Hong Kong Cultural Centre

ตึกสูงๆ คือ Two IFC บนเกาะฮ่องกง ส่วนเรือที่เราจะนั่งข้ามไปอยู่ทางมุมขวาล่างของภาพ

     บัตรปลาหมึก สามารถใช้ในการขึ้นเรือได้สะดวกมาก วิธีการตามนี้เลย http://www.packagetourhongkong.com/webboard/index.php?topic=104.0 แตะบัตรผ่านเข้ามาแล้วก็นั่งรอแป๊ปนึง พอเห็นคนเดินไปขึ้นเรือก็เดินตามเค้าไป 555+
     นั่งเรือชมวิว ไม่นานก็ถึง
ตึก ICC ฝั่งเกาลูน ตึกนี้สูงที่สุดในฮ่องกง 118 ชั้น 484 เมตร

ท่าเรืออยู่ด้านล่างใกล้ๆ ตึก Two IFC สูงอันดับ 2 ในฮ่องกง 88 ชั้น 412 เมตร
     เดินออกจากท่าเรือจะเจอทางขึ้นสะพานลอย (Footbridge) ยาวไปถึงตึก Exchange Square ได้เลย
ท่าเรือ Central Ferry Pier No.7 ที่เราลง

ชิงช้าสวรรค์ The Hong Kong Observation Wheel 

ระหว่างเดินบนสะพานลอย ก็ดูวิวสองข้างทาง

     ลงจากสะพานลอยเราก็เข้าไปใต้ตึก Exchange Square ซึ่งเป็นท่ารถบัสหลายสาย (http://www.hongkongpackage.net/board/index.php/topic,98.0.html) ที่เราจะนั่งไป Repulse Bay จะเป็นสาย 6, 6A, 6X, 260 จอดอยู่ใกล้ๆ กัน จะขึ้นคันไหนก็ไปต่อแถวได้เลย แน่นอนว่าใช้บัตรปลาหมึกได้
บนรถมีจอแสดงข้อมูลเส้นทางและป้ายต่างๆ ให้เราดู ต่อไปก็เป็นการนั่งรถชมเมืองฮ่องกง
เกาะฮ่องกงจะเป็นโซนธุรกิจมากกว่าฝั่งเกาลูน อัดแน่นไปด้วยตึกสูง

เริ่มออกนอกเมือง

ถนนเจาะเข้าไปในภูเขา

กลายเป็นอุโมงค์

น่าจะเป็น "ฮวงซุ้ย" ที่มี "ฮวงจุ้ย" ดี
     ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที นั่งเพลินๆ ดูวิวสองข้างทางไปเรื่อยๆ พอเจอตึกที่มีรูตรงกลางก็มายืนรอเตรียมลง ลงมาแล้วก็เดินข้ามถนนไปที่หาด Repulse Bay
เดินเลาะตามหาดไปเรื่อยๆ

เจ้าแม่กวนอิม และเจ้าแม่ทับทิม

สะพานอายุยืน

โยนเหรียญเข้าปากปลา

     นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ผมเจอก็เป็นคนไทย สงสัยจะมาตามรีวิวเหมือนกัน ^_^ 
     เสร็จจากที่นี่ก็เดินกลับทางเดิม ไปขึ้นรถเมล์ที่ป้ายเดิม สายเดิม เพื่อจะไป Stanley Market ทางขึ้นเขาสนุกสนาน รถบัสวิ่งกระแทกกิ่งไม้ข้างทางไปเรื่อยๆ ผมนั่งชั้น 2 ด้านหน้าซ้ายนี่ลุ้นว่ากระจกจะแตกรึเปล่า
     รถจะวิ่งผ่าน Stanley Plaza ก่อน จะลงป้ายนี้ก็ได้ เพราะเดินถึงกัน แต่ผมตั้งใจจะไปกินข้าวก่อน เลยนั่งต่อไปลงที่ Stanley Market พอลงรถก็เดินข้ามฝั่งมา 
     4 ปีก่อนพี่เค้าพาผมมากินที่ Stanley Restaurant รสชาติดี ราคาไม่แพง ครั้งนี้ผมก็ตั้งใจพาชาวคณะไปกินที่นั่น เดินไปด้วยความมั่นใจ ยังพอจำทางได้อยู่ แต่พอเดินไปถึงปรากฏว่า...หาไม่เจอ
     เดินวนไปมาแถวนั้น 2-3 เที่ยว เปิด Google Map ดู ก็ยังหาไม่เจอ สุดท้ายตัดสินใจถามคนแถวนั้น เค้าก็ไม่รู้จัก จนเปิดรูปให้ดูเค้าถึงรู้ เค้าก็ชี้ให้ดูร้านที่เพิ่งตกแต่งใหม่ร้านนึง บอกว่าเมื่อก่อนก็ตั้งอยู่ตรงนี้แหละ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นร้านอื่นไปแล้ว...จบข่าว
     ร้านที่มาทำใหม่ ลักษณะการตกแต่งคล้ายๆ ร้านเหล้า ผมเลยไม่กล้าเข้าไป ปรึกษากับชาวคณะแล้วก็คงหาร้านกินแถวๆ นี้แหละ เดินออกมานิดหน่อย ก็เห็นร้านอาหารที่มีคนนั่งกินเยอะ เลยตัดสินใจเข้าไปกิน
     พนักงานพาขึ้นไปนั่งชั้น 2 พื้นที่ร้านค่อนข้างแคบ แต่ก็จัดวางได้ดี ไม่อึดอัด มีเมนูภาษาอังกฤษ ก็สั่งข้าวมากินกัน จานใหญ่มาก กินกันแทบไม่หมด รสชาติโอเค ราคาโอเค ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนในท้องที่ เพราะเค้าคุยกันรู้เรื่อง
     เสร็จแล้วก็เดินลงไปที่ Stanley Promenade เดินเล่นริมทะเลและโขดหิน
ตรงวงเวียนมีรถไอติมขายอยู่ แฟนผมบอกว่าเคยเห็นในรีวิว เลยจัดมาคนละอัน
     ตลอดแนวชายฝั่งมีร้านอาหารเกือบตลอด ส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันตกนั่งจิบเบียร์กัน บรรยากาศดีทีเดียว

ลาน Stanley Plaza กำลังซ้อมการแสดง

Blake Pier ครั้งก่อนไม่ได้ไป ครั้งนี้เลยขอไปซะหน่อย

     ผมเดินไปที่ Blake Pier มีเรือโจรสลัดเข้าเทียบท่าพอดี กลุ่มโจรสลัดรุ่นเยาว์วิ่งลงมาอย่างสนุกสนาน คงเป็นเรือท่องเที่ยวที่จำลองบรรยากาศของเรือโจรสลัดในอดีต หลังจากสอดส่องไปตามจุดต่างๆ จนหนำใจแล้วก็พาชาวคณะขึ้นรถบัสกลับไปที่ตึก Exchange Square เพื่อต่อรถบัสไป The Peak
     ขากลับผมนั่งสาย 260 ซึ่งแพงกว่านิดหน่อย แต่วิ่งขึ้นทางด่วนตรงยาว ถึงเร็วกว่า

     จากท่ารถใต้ตึก Exchange Square เรามารอขึ้นรถบัสสาย 15 ปลายทาง The Peak (http://www.hongkongpackage.net/board/index.php?topic=83.0)
     วันนี้เป็นวันนั่งรถบัส สนุกดีคนขับเก่งมาก ทางขึ้นเขา ถนนแคบ แต่ทำความเร็วได้ตลอด บางครั้งผมกะว่าต้องครูดกันแน่ แต่ก็ไม่ยักโดน ขอชื่นชมคนขับเลย
     รถมาจอดใต้อาคาร The Peak Galleria
ทางที่รถวิ่งขึ้นมา
ขึ้นมาชมวิวอาทิตย์ตกตรงระเบียงร้าน McDonald's
     ขึ้นไปบนดาดฟ้า (ฟรีไม่เสียเงิน) ก็จะมองเห็นวิวทางฝั่งตะวันตก กำลังสวย ถ้าเดินไปอีกด้านก็จะเห็นวิวฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นตึกสูง สวยไปอีกแบบ เสร็จแล้วก็เดินลงไปด้านล่าง

ทางเข้าอาคาร

ลานด้านหน้าอาคาร มีรถรางให้ดู

     เดินไปด้านหลังจะมีจุดชมวิวอีกจุด ให้เดินเลาะริมเขาได้
วิวเกาะฮ่องกงทางฝั่งตะวันออก มองไปทางฝั่งเกาลูน


The Peak Tower ด้านบนเป็น Sky Terrace 

     ใจนึงผมก็อยากอยู่จนมืดจะได้ชมวิวแสงไฟ แต่ใจนึงก็กลัวไปดู A Symphony of Lights (http://www.discoverhongkong.com/eng/see-do/highlight-attractions/harbour-view/a-symphony-of-lights.jsp) ไม่ทัน เริ่มแสดงตอน 20.00 น. ใช้เวลาแสดงประมาณ 13 นาที สุดท้ายก็ตัดสินใจรีบพาชาวคณะไปดู A Symphony of Lights ดีกว่า เพราะต้องเผื่อเวลาเดินทางอีก
     นั่งรถบัสสาย 15 ลงไปที่ท่าเรือ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แล้วต้องนั่งเรือจากเกาะฮ่องกง ข้ามไปฝั่งเกาลูนอีก ไม่รู้ต้องไปต่อแถวนานรึเปล่า

     สรุปว่ามาทันเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง เลยหาซื้อขนมรองท้องกันก่อน 
แถวๆ ท่าเรือมีนางเงือก น่ารักเชียว

คนมารอแน่นจุดชมวิว
     ดูการแสดง A Symphony of Lights แล้ว ผู้ใหญ่ทั้ง 3 ท่านไม่ค่อยประทับใจ ชวนกลับตั้งแต่โชว์ยังไม่จบ แต่ผมก็ยังดูสนุกอยู่นะ สงสัยจะอึดอัดที่คนแน่นเกินด้วย
     เราเดินกลับไปหาข้าวกินแถวที่พัก ไปกินโจ๊กร้านเดิมนั่นแหละ กินเสร็จก็เตรียมเข้าที่พัก แต่แฟนผมอยากกิน "วาฟเฟิลบอล" เจ้าดังของที่นี่ (http://hongkongfanclub.blogspot.com/p/blog-page_431.html) เลยไปต่อแถวซื้อกับน้องสาว ส่วนผมพาผู้ใหญ่ทั้ง 3 ท่านเข้าที่พัก แล้วผมค่อยลงมาใหม่

สังเกตง่าย มีแถวคนยืนรอยาวๆ อยู่หน้าร้าน

รับรองความอร่อยโดยยางรถยนต์ที่ท่านวางใจ
     วาฟเฟิลบอลแบบ Original อร่อยจริงๆ หอมมาก แต่รสช็อกโกแลต กินแล้วเหมือนไม่เข้ากันยังไงไม่รู้
    วาฟเฟิลบอลนี่ผมเคยกินครั้งแรกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ประทับใจมาก ครั้งแรกอ่ะเนาะ แต่ตอนหลังๆ ที่เมืองไทยก็มีทำขายละ รสชาติก็อร่อย กินครั้งนี้เลยไม่ตื่นเต้นเท่าไร
     เสร็จภาระกิจไปอีกวัน ทำได้ตามกำหนดการเป็นส่วนใหญ่ อันไหนยังไม่ได้ก็ยกยอดไปอีกวัน
     พรุ่งนี้จะไปตะลุยคาสิโนที่มาเก๊าละ

...อ่านต่อ Part3 >>

2 ความคิดเห็น:

  1. บรรยายประกอบภาพอย่างได้อารมณ์ ได้ทั้งความรู้ที่จะใช้ในการเดินทางด้วยตนเอง

    ตอบลบ